เขย่าขวัญชาติเฮติ – วันที่ 7 ก.ค. เอเอฟพี รายงานว่า รัฐบาลนานาประเทศแถลงปฏิกิริยาตกตะลึงพร้อมประณามเหตุการณ์ที่ประธานาธิบดีฌอเวอแนล มออีซ ผู้นำเฮติ วัย 53 ปี ประเทศในแคริบเบียน ถูกกลุ่มติดอาวุธลอบสังหารถึงบ้านพักเมื่อช่วงเช้าตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่นางมาร์แต็ง มออีซ ภริยาประธานาธิบดีมออีซ ถูกยิงบาดเจ็บด้วย
ส่วนกระทรวงกลาโหมโดมินิกัน ชาติเพื่อนบ้าน มีคำสั่งปิดพรมแดน 380 กิโลเมตร ที่ติดกับเฮติบนเกาะเกาะฮิสปันโยลาทันที
นายลูอิส อาบีนาเดร์ ประธานาธิบดีโดมินิกัน ทวีตข้อความประณามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยในเฮติและภูมิภาค ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า นายอาบีนาเดอร์เรียกเหล่าผู้นำกองทัพเข้าพบเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์บนเกาะฮิสปันโยลา
น.ส.เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐอเมริกา แถลงว่า การโจมตีดังกล่าวน่าสยดสยองและน่าสลดใจ สหรัฐจะช่วยเหลือประชาชนและรัฐบาลเฮติ และว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะได้รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวในไม่ช้า
ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ ทวีตข้อความแสดงความรู้สึกสะเทือนใจและเศร้าใจ และแสดงความเสียใจต่อประเทศเฮติ และว่า การลอบสังหารดังกล่าวเป็นการกระทำน่ารังเกียจ
ก่อนหน้านี้ นายโคลเดอ โฌแซ็ฟ นายกรัฐมนตรีเฮติรักษาการ แถลงถึงเหตุการณ์สะเทือนขวัญว่า ขณะนี้ตนเป็นผู้รับผิดชอบดูแลประเทศ ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ พร้อมยืนยันว่าตำรวจและกองทัพจะรับประกันความปลอดภัยของประชาชน
“ประธานาธิบดีถูกลอบสังหารที่บ้านพักโดยฝีมือชาวต่างชาติที่สื่อสารภาษาอังกฤษและภาษาสเปน” นายกรัฐมนตรีโฌแซ็ฟกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า บรรยากาศในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวง เงียบสงบ โดยไม่มีกองกำลังรักษาความปลอดภัยลาดตระเวนเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีมออีซปกครองเฮติตามกฤษฎีกา หลังการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติตามกำหนดในปี 2561 ถูกเลื่อนออกไป หลังเกิดข้อพิพาทต่างๆ รวมถึงเมื่อวาระการดำรงตำแหน่งของนายมออีซสิ้นสุดลง
นอกจากวิกฤตทางการเมือง มีการลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่พุ่งสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สะท้อนถึงอิทธิพลของกลุ่มติดอาวุธเพิ่มขึ้นในเฮติ ซึ่งยังเผชิญความยากจนมาอย่างยาวนานและภัยธรรมชาติที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ประธานาธิบดีมออีซถูกต่อต้านอย่างหนักจากประชาชนที่ถือว่า กฤษฎีกาดังกล่าวผิดกฎหมาย และนายมออีซเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีมากถึง 7 คน ในรอบ 4 ปี ล่าสุด คาดว่านายโฌแซ็ฟจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปสัปดาห์นี้ หลังเพิ่งเป็นนายกรัฐมนตรี 3 เดือน
นอกจากการเลือกตั้งประธานาธิบดี การเลือกตั้งสภานิติบัญญัติ และการเลือกตั้งท้องถิ่น เฮติมีกำหนดการลงประชามติเพื่อปฏิรูปรัฐธรรมนูญในเดือนกันยายนนี้ หลังถูกเลื่อนออกไปถึง 2 ครั้ง เนื่องจากการระบาดของโควิด-19
เนื้อหาการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีมออีซ เน้นไปที่การเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ฝ่ายบริหาร แต่ถูกปฏิเสธอย่างท่วมท้นจากฝ่ายค้านและองค์กรภาคประชาสังคมหลายแห่ง
รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันตราขึ้นเมื่อปี 2530 หลังการล่มสลายระบอบเผด็จการของประธานาธิบดีฟร็องซัว ดูว์วาลีเย รัฐธรรมนูญบัญญัติว่า “การปรึกษาหารือประชาชนที่มุ่งเป้าไปที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยการลงประชามติเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเป็นทางการ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เฮติสกัดแผน “รัฐประหาร” หวังฆ่าประธานาธิบดี เผยมีผู้พิพากษา-ตำรวจร่วมด้วย