งานวิจัยพบ – วันที่ 7 ก.ค. ซีเอ็นเอ็น รายงานผลการวิจัยใหม่ว่า ปลาเทราต์สีน้ำตาลสามารถติดยาเสพติดได้ หากมีการสะสมในแหล่งน้ำ

คณะนักวิจัยที่นำโดยนายปาเลว ฮอร์กี นักนิเวศวิทยาเชิงพฤติกรรม จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตแห่งเช็ก (Czech University of Life Sciences) ในกรุงปราก ดำเนินการตรวจสอบว่า การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของปลาจะแปรผันตามปริมาณยาเสพติดที่พบในแหล่งน้ำหรือไม่

คณะนักวิจัยนำปลาเทราต์ 40 ตัว ใส่ถังเก็บน้ำที่มีเมทแอมเฟตามีนปนเปื้อนในระดับที่พบในแม่น้ำน้ำจืด เป็นเวลา 8 สัปดาห์ ก่อนจะย้ายทั้งหมดไปอยู่ในถังน้ำสะอาด

จากนั้น ตรวจสอบวันเว้นวันว่า ปลาเทราต์มีอาการ “ถอนยา” หรือไม่ โดยให้พวกมันเลือกระหว่างน้ำที่ปนเปื้อนยาเสพติด หรือน้ำธรรมดา และใช้ปลาเทราต์อีก 40 ตัว เป็นกลุ่มควบคุมในการทดลอง หลังการทดลอง การุณยฆาตปลาเทราต์และนำเนื้อเยื่อสมองมาวิเคราะห์

Daniel K.C. Johnson/Facebook

การศึกษาได้รับการตีพิมพ์ในวารสารชีววิทยาทดลอง (Experimental Biology) ผลปรากฏว่า ปลาเทราต์ที่อยู่ในน้ำที่ปนเปื้อนเมทแอมเฟตามีน เลือกที่จะอยู่ในน้ำที่ปนเปื้อนสารเสพติดดังกล่าว 4 วันหลังย้ายไปอยู่ในน้ำธรรมดา บ่งชี้ว่า ปลาเทราต์กำลังมีอาการถอนยา หรือลงแดง เนื่องจากโหยหายาเสพติดเมื่อมีอาการดังกล่าว

คณะนักวิจัยพบว่า ปลาที่ติดเมทแอมเฟตามีนจะคล่องแคล่วน้อยกว่าปลาที่ไม่เคยติดสารเสพติดชนิดนี้ และพบร่องรอยของสารเสพติดในสมองของปลาหลังเสพเข้าไปนานถึง 10 วันทีเดียว และสรุปว่า ต่อให้แหล่งน้ำมีสารเสพติดปนเปื้อนในระดับต่ำยังสามารถส่งผลกระทบต่อปลาเทราต์ที่อาศัยอยู่ได้

ส่วนยาเสพติดที่ขับออกมาจากผู้เสพจะผ่านระบบบำบัดน้ำเสียแล้วปล่อยออกจากโรงบำบัดน้ำเสีย ซึ่งไม่ได้ออกแบบมาเพื่อกำจัดยาเสพติดที่ปนเปื้อนมาด้วย

PA

“ปลามีความไวต่อผลข้างเคียงของยาออกฤทธิ์ทางประสาทหลายชนิด ตั้งแต่แอลกอฮอล์จนถึงโคเคน และสามารถมีอาการติดยาที่สัมพันธ์กับวงจรรางวัลโดพามีน (Dopamine reward pathway) ในลักษณะเดียวกับมนุษย์ โดยโดพามีน ซึ่งเป็นฮอร์โมน จะหลั่งออกมาจากสมองส่วนหน้า เมื่อมนุษย์มีความสุข”

นายฮอร์กีแสดงความกังวลด้วยว่า การติดยาอาจทำให้ปลาใช้เวลาอยู่กับการปล่อยน้ำที่บำบัดมากขึ้น เพื่อจะได้เสพยาอีกครั้ง ทั้งที่กระบวนการดังกล่าวไม่ดีต่อสุขภาพปลา

“ผลกระทบดังกล่าวสามารถเปลี่ยนการทำงานของระบบนิเวศทั้งหมดได้ เนื่องจากผลกระทบที่ตามมามีความเกี่ยวข้องในระดับปัจเจกตลอดจนระดับประชากรปลา” และเสริมว่า ความอยากยาเสพติดของปลาสามารถพิสูจน์ได้ว่าทรงพลังยิ่งกว่ารางวัลตามธรรมชาติ เช่น การหาอาหาร หรือการผสมพันธุ์

ภาพประกอบ เมทแอมเฟตามีน PR IMAGE

การศึกษาย้ำว่า มนุษย์สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติอย่างไร นอกเหนือจากสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน เช่น คราบน้ำมัน และขยะพลาสติก ซึ่งนายฮอร์กีกล่าวว่า มีนัยต่อผลกระทบของยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ เช่น ฟลูออกซิทีน (fluoxetine) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อทางการค้า โปรแซ็ค (Prozac) ที่ใช้รักษาสัตว์น้ำ

“การวิจัยจากทีมงานทั่วโลกแสดงให้เห็นผลกระทบเชิงลบต่อระบบนิเวศอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งอาจส่งผลต่อมนุษย์ได้” นายฮอร์กีทิ้งท้าย

ทว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สัตว์ได้รับผลกระทบจากการใช้ยาเสพติดของมนุษย์ ก่อนหน้านี้ นักวิจัยในอังกฤษประกาศพบร่องรอยยาเสพติด ยารักษาโรค และยาฆ่าแมลงผิดกฎหมาย ในตัวอย่างกุ้งน้ำจืด เมื่อเดือนพ.ค. 2562

นอกจากนี้ ย้อนไปเดือนพ.ค. 2561 นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานในบริเวณพิวเจต ซาวด์ (Puget Sound) ปากมหาสมุทรแปซิฟิกตามแนวชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐวอชิงตัน ในสหรัฐอเมริกา เผยว่า หอยแมลงภู่ในพื้นที่มีผลการทดสอบเป็นบวกต่อยาออกซิโคโดน (oxycodone) เป็นสารสังเคราะห์โอปิออยด์ (opioid) ที่ทำให้ติดยาสูงมาก และต้องสั่งโดยแพทย์เท่านั้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

สื่อเกาหลีใต้ตีข่าว จับคนไทยขนยาไอซ์ เข้าประเทศ มูลค่า 363 ล้านบาท

งามหน้า! ฮ่องกงยึด เฮโรอีน ซุกเครื่องทำกาแฟส่งจากไทย มูลค่า 900 ล้าน

ออสเตรเลียสกัด ‘ยาไอซ์’ กว่า 2.4 พันล้านบาท ถูกซุกในสินค้า ที่ขนส่งมาจากไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน