แรงน้ำทะลักซัดบ้านถล่ม – เอพี รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์น้ำหลากท่วมฉับพลันพื้นที่ฝั่งตะวันตกของเยอรมนี หลังฝนตกหนักจนปริมาณน้ำล้นทะลัก จากทั้งแม่น้ำที่ล้นตลิ่งและจากอ่างเก็บน้ำไหลหลากซัดบ้านเรือนพังถล่มไปหลายหลัง เช่นเดียวกับรถยนต์ถูกกวาดไปกองเกลื่อนกับเศษซากอื่นๆ หลายสิบคัน ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเกิน 80 รายแล้ว และยังมีผู้สูญหายอีกนับร้อยชีวิต
“ดิฉันขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียในภัยพิบัติครั้งนี้ เรายังไม่ทราบตัวเลขผู้เคราะห์ร้ายที่แน่ชัด แต่คงจะมีมากทีเดียว” นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวระหว่างเยือนกรุงวอชิงตันสหรัฐอเมริกา เป็นการทิ้งทวนก่อนลงจากตำแหน่ง
นายกฯ หญิงแกร่ง ให้คำมั่นด้วยว่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลจะทำทุกหนทางเพื่อค้นหาผู้ที่สูญหายไปในเหตุการณ์ฝนกระหน่ำและน้ำท่วมในครั้งนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในรัฐ นอร์ท ไรน์-เวสต์ฟาเลิน และ รัฐไรน์แลนด์-พาลาทิเนต ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ถูก แรงน้ำทะลักซัดบ้านถล่ม ในจำนวนนี้รวมถึงชาวบ้าน 9 คนที่อยู่ในศูนย์ช่วยเหลือดูแลคนพิการ
การกู้ภัยใช้กำลังทหารและเจ้าหน้าที่สถานการณ์ฉุกเฉินกว่า 15,000 นายร่วมค้นหาและช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้าง รวมทั้งเคลียร์ซากต้นไม้และบ้านเรือนที่กีดขวางถนน
สำหรับพื้นที่ที่เสียหายมากที่สุดคือหมู่บ้านชูลด์ เนื่องจากกระแสน้ำพัดจนบ้านพังถล่มลงมา ทำให้มีผู้สูญหายจำนวนมาก นายคาร์ล-ไฮนซ์ กริมม์ ซึ่งเดินทางมาช่วยเหลือพ่อแม่ที่หมู่บ้านชูลด์ กล่าวว่า ไม่เคยเห็นแม่น้ำสายเล็กๆ อย่างแม่น้ำอาร์จะกลายเป็นกระแสน้ำมรณะไปได้
ทั้งนี้ มีประชาชนหลายสิบชีวิตที่ได้รับความช่วยเหลือมาจากตามหลังคาที่หนีน้ำขึ้นไป มีทั้งเฮลิคอปเตอร์ และเรือยางที่ไปรับผู้ประสบภัยเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการรัฐไรน์แลนด์ลพาลาทิเนต นายมาลู ดรีเยอร์ กล่าวแถลงต่อสภาท้องถิ่นว่า ยังมีผู้เสียชีวิต ผู้สญหายอีกมาก มีอีกหลายคนอยู่ในสถานการณ์อันตราย จากหายภัยที่ไม่เคยเจอมาก่อน เป็นเรื่องที่เสียขวัญอย่างยิ่ง
อาร์มิน ลาเช็ต มุขมนตรีรัฐนอร์ท ไรน์-เวสต์ฟาเลิน กล่าวว่า สภาพอากาศสุดขั้วที่เป็นผลมาจากภาวะโลกร้อนเป็นสาเหตุของหายนะทางธรรมชาติในครั้งนี้
“เราจะประสบเหตุแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า และนั่นหมายถึงว่า เราต้องเร่งมาตรการป้องกันสภาพอากาศ เพราะความเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศมันไม่ได้เกิดกับแค่รัฐเดียว” นายลาเช็ตกล่าว
ส่วนที่ประเทศเบลเยียม ซึ่งประสบสภาพอากาศเดียวกัน แม่น้ำเวสเดรล้นตลิ่งหลากเข้าท่วมบ้านเรือน โดยเฉพาะที่เมืองเปปองสเตอร์ ใกล้เมืองลีเก พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 ราย ขณะเจ้าหน้าที่กู้ภัยออกช่วยเหลือประชาชน ปรากฏว่าเรือถูกน้ำซัดคว่ำจนผู้สูงอายุสูญหายไป 3 คน
ส่วนที่เมืองลีเก ประชากร 2 แสนคน เจอน้ำท่วมจากแม่น้ำมูส หลายคนต้องหนีขึ้นไปอยู่บนที่สูง
นางเออร์ซูลา วอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป แถลงว่า อียูจะช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ ส่วนสมเด็จพระสันตปาปา ฟรานซิส ทรงส่งพระราชสาส์นแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสีย พร้อมสวดภาวนาให้ผู้บาดเจ็บและผู้สูญหาย
—-
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
เยอรมันอ่วมฤทธิ์พายุ น้ำท่วมคร่าหลายชีวิต อีกครึ่งร้อยยังสูญหาย