ทารก “จิ๋วสุดในโลก” กลับบ้านแล้ว หลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลนาน 13 เดือน
ทารก “จิ๋วสุดในโลก” – บีบีซี รายงานวันที่ 9 ส.ค. ถึงข่าวดีของครอบครัวชาวสิงคโปร์ หลังจาก ด.ญ.เกว็ก หยู ซวน ซึ่งเชื่อว่าเป็นทารกที่ตัวเล็กที่สุดในโลก ด้วยน้ำหนักแรกเกิดเพียง 212 กรัม หรือเทียบเท่าน้ำหนักแอปเปิ้ลแค่ 1 ผล และมีความยาวตัว 24 เซนติเมตร ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว
หลังอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (เอ็นยูเอช) นานกว่า 13 เดือนตั้งแต่นางหว่อง เม่ย หลิง แม่ของด.ญ.หยู ซวน เข้ารับการผ่าคลอดก่อนกำหนดถึง 4 เดือน ขณะมีอายุครรภ์แค่ 25 สัปดาห์ เพราะเกิดภาวะความดันโลหิตสูงที่จำเพาะกับการตั้งครรภ์ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตแม่และทารก
อย่างไรก็ตาม แพทย์สามารถทำคลอดได้สำเร็จ โดยด.ญ.หยู ซวน มีพัฒนาการทางร่างกายที่ดีจนน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 6.3 กิโลกรัม แต่ในข่าวดีก็ยังมีความกังวลเพราะหยู ซวน จำเป็นต้องรับการรักษาต่อเนื่องจากอาการของโรคปอดเรื้อรัง
A baby thought to be the world’s smallest at birth has been discharged from a Singapore hospital after 13 months of intensive treatment. Kwek Yu Xuan was just 212g when she was born and measured 24cm long. Source: NUH
แถลงการณ์จากโรงพยาบาลระบุว่า แม้โอกาสรอดชีวิตจะจำกัดมาก แต่ด.ญ.หยู ซวน ก็เติบโตขึ้น และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนรอบตัว ด.ญ.หยู ซวน เป็นทารกที่เกิดในช่วงวิกฤตโรคโควิด-19 แพร่ระบาด และการที่เด็กหญิงตัวเล็กๆ สามารถเอาชนะปัญหาสุขภาพมาได้ถือเป็นแสงแห่งความหวังท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของโลกในปัจจุบัน
ทั้งนี้ พ่อแม่ของด.ญ.หยู ซวน ได้รับความช่วยเหลือจากการเปิดรับบริจาคบนโลกออนไลน์สำหรับค่ารักษาระยะยาวในแผนกผู้ป่วยหนักซึ่งมีคนใจบุญร่วมสมทบเงินมากถึง 366,884 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือกว่า 9 ล้านบาท
+++ คลิกที่นี่เพื่อดูรูปจากเว็บไซต์ต้นทาง +++
Kwek Yu Xuan, who is 14 months old, is the smallest baby in Singapore to have been delivered at the National University Hospital and survived. Source: NUH
Yu Xuan was born four months ahead of schedule by emergency c-section. She was delivered at just under 25 weeks – far short of the average 40. The previous record holder was a girl in the US who weighed 245g at birth in 2018 according to the University of Iowa’s Tiniest Babies Registry. Source: NUH
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
