ตาลิบันประกาศ – วันที่ 16 ส.ค. อัลจาซีรา และ เอเอฟพี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ในอัฟกานิสถานว่า กองกำลังตาลิบันประกาศว่าสงครามในอัฟกานิสถานที่ยืดเยื้อมานาน 20 ปี สิ้นสุดแล้ว และเรียกร้องความสัมพันธ์อย่างสันติกับประชาคมระหว่างประเทศ
นายโมฮัมหมัด นาอีม โฆษกสำนักการเมืองของตาลิบัน กล่าวว่า “วันนี้เป็นวันที่ดีต่อชาวอัฟกันและมาจูฮีดีน หรือทหารมุสลิม ซึ่งเห็นผลของความพยายามและการเสียสละของพวกเขาเป็นเวลา 20 ปี ขอบคุณพระเจ้า สงครามในประเทศสิ้นสุดแล้ว”
นายนาอีมกล่าวด้วยว่า ประเภทและรูปแบบระบอบการปกครองใหม่ในอัฟกานิสถานจะมีความชัดเจนไม่ช้านี้ และว่า กองกำลังตาลิบันไม่ต้องการอยู่อย่างโดดเดี่ยวและเรียกร้องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างสันติ
“เราบรรลุสิ่งที่เราต้องการแล้ว นั่นคือเสรีภาพของประเทศเรา และอิสรภาพของประชาชนของเรา เราจะไม่อนุญาตให้ใครใช้แผ่นดินของเราเพื่อใช้โจมตีใคร และเราไม่ต้องการทำร้ายผู้อื่น” นายนาอีมกล่าว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังกองกำลังตาลิบันปิดล้อมกรุงคาบูลและยึดทำเนียบประธานาธิบดีเมื่อค่ำคืนที่ 15 ส.ค. นับเป็นความล่มสลายอย่างรวดเร็วของรัฐบาลอัฟกานิสถาน และนับเป็นการผนึกชัยชนะของกองกำลังตาลิบันทั่วประเทศที่ยึดเมืองเอกของจังหวัดต่างๆ ทั้งหมดภายในเพียง 10 วัน
ด้านประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ซึ่งเดินทางออกนอกประเทศ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก เป็นครั้งแรก ยอมรับชัยชนะของตาลิบันในสงครามอัฟกานิสถาน
“ตาลิบันชนะด้วยการใช้ดาบและปืนพิพากษา และตอนนี้ต้องรับผิดชอบต่อเกียรติ ทรัพย์สมบัติ และการรักษาตัวเองของเพื่อนร่วมชาติของพวกเขา”
ขณะที่บรรยากาศช่วงเช้าวันนี้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด การ์ไซ ในกรุงคาบูล เต็มไปด้วยความโกลาหล หลายพันคนกำลังพยายามหนีออกจากเมืองหลวง และหนีระบอบการปกครองมุสลิมสายสุดโต่งของตาลิบัน
ทหารสหรัฐอเมริกา ที่ตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยรอบสนามบินในปฏิบัติการอพยพเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐ จำเป็นต้องยิงปืนขึ้นฟ้าหลายนัดเพื่อเตือนประชาชนที่วิ่งเข้ามาในรันเวย์ หลายคนพยายามปีนสะพานเทียบเครื่องบินเพื่อที่จะแย่งกันโดยสารเที่ยวบินด้วย
นอกจากนี้ มีคลิปวิดีโอเผยร่างผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งในสนามบิน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า พวกเขาอาจเหยียบกันตายขณะพยายามเบียดเสียดกันเพื่อแย่งกันขึ้นเครื่องบิน และมีเสียงปืนในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาด้วย
สำหรับความคืบหน้าการอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า ทั้งหมดออกจากสถานทูตในกรุงคาบูลแล้ว ขณะนี้อยู่ในที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด การ์ไซ ภายใต้การตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยของทหารสหรัฐ
หลังสหรัฐส่งทหาร 6,000 นาย มาที่สนามบินในกรุงคาบูล เพื่ออพยพเจ้าหน้าที่ทูต ตลอดจนชาวอัฟกันที่ทำงานเป็นล่ามหรืออื่นๆ กับสหรัฐ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐยอมรับว่า ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ที่สนามบินได้
กระทรวงกลาโหมและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ร่วมว่า “เรากำลังดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อรักษาความปลอดภัยกับท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด การ์ไซ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของสหรัฐและพันธมิตรออกเดินทางได้อย่างปลอดภัย”
จากนั้น นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ว่า สหรัฐออกแถลงการณ์ร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศมากกว่า 69 ชาติ เรียกร้องให้กองกำลังตาลิบันปล่อยชาวอัฟกันเดินทางออกนอกประเทศ โดยเตือนว่าจะต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดชีวิตชาวอัฟกัน
ส่วนรัสเซียยังไม่ได้เตรียมอพยพเจ้าหน้าที่ทูตในกรุงคาบูล นายซามีร์ คาบูลอฟ ผู้แทนพิเศษกิจการอัฟกานิสถาน ของประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน กล่าวว่า สถานทูตรัสเซียประจำกรุงคาบูลยังไม่พร้อมอพยพ
ด้านนายนีคีตา อิชเชนโค โฆษกสถานทูตรัสเซียประจำกรุงคาบูลกล่าวว่า นายดมีตรี จีร์นอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงคาบูล เตรียมพบตัวแทนของตาลิบันเพื่อหารือเกี่ยวกับความปลอดภัยของคณะทูตรัสเซียต่อไป
วันเดียวกัน นายอันโตนีโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้กองกำลังตาลิบันและทุกฝ่าย “ใช้ความยับยั้งชั่งใจ” และกล่าวว่า สิทธิสตรีและเด็กผู้หญิง ซึ่งได้รับความทุกข์ทรมานภายใต้ระบอบการปกครองของตาลิบันในอดีต จะต้องได้รับการคุ้มครอง
นอกจากนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะประชุมเกี่ยวกับอัฟกานิสถานวันนี้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
อย่าเทียบวันไซ่ง่อนแตก รมต.ปวดใจ สื่อยกภาพสหรัฐเผ่นจากกรุงคาบูล
ตาลิบันบุก “กรุงคาบูล” แล้ว ประธานาธิบดีอัฟกาฯ เผ่นหนีออกนอกประเทศ