จับออสซี่ป่วยโควิด “หลบหนี” 2 สัปดาห์ เมินกักตัว-ไม่สวมแมสก์ หวั่นแพร่เชื้อทั่วรัฐ
จับออสซี่ป่วยโควิด – วันที่ 27 ส.ค. เดลีเมล์ รายงานความคืบหน้าการจับกุมชายชาวออสเตรเลียที่ถูกเรียกว่า “ศัตรูสาธารณสุขอันดับ 1” เพราะทั้งที่รู้ตัวว่าติดเชื้อโควิด-19 แต่กลับไม่ยอมแยกกักตัวหรือเข้ารับการรักษา หนำซ้ำยังหลบหนีและส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องนานเกือบ 2 สัปดาห์กระทั่งถูกจับได้ในที่สุด
รายงานระบุว่าตำรวจเมืองแบงก์ทาวน์สในชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคล นำกำลังจับกุมนายแอนโธนี คารัม อายุ 27 ปีที่ห้องพักแห่งหนึ่งในย่านเวนต์เวิร์ธพอยต์ นครซิดนีย์ เมื่อเย็นวันพฤหัสบดีที่ 26 ส.ค.ตามเวลาท้องถิ่น
จากคลิปวิดีโอของสถานีโทรทัศน์ 7 นิวส์ เผยให้เห็นเจ้าหน้าที่ 2 นายควบคุมตัวนายคารัมซึ่งอยู่ในชุดป้องกัน และพูดกับผู้สื่อข่าวว่า “ผมมีหลักฐานว่าแยกกักตัวตลอดเวลา ดังนั้นคุณจะทำอะไรก็ทำเถอะ” นายคารัมระบุ
ด้านเจ้าหน้าที่ระบุว่า นายคารัมมีประวัติเป็นที่รู้จักของตำรวจ และรู้ผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ว่าเป็นบวกเมื่อวันที่ 14 ส.ค. แต่กลับปฏิเสธที่จะแยกกักตัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยเจ้าหน้าที่มีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นนายคารัมซึ่งไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย กำลังไออย่างหนักขณะใช้ลิฟต์ของอพาร์ตเมนต์
นอกจากนี้ยังไม่ยอมรับโทรศัพท์จากบุคลากรทางการแพทย์ซึ่ต่อมาแจ้งไปยังตำรวจ และเมื่อนำกำลังไปที่พักที่นายคารัมให้ไว้กับโรงพยาบาลก็ปรากฏว่าเป็นที่อยู่ปลอม เจ้าหน้าที่จึงออกประกาศเตือนภัยต่อสาธารณชนในวันที่ 23 ส.ค. ว่านายคารัมเป็นบุคคลอันตราย เนื่องจากไม่สามารถติดตามตัวได้และมีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่เชื้อให้ผู้คนจำนวนมากทั่วรัฐนิวเซาต์เวลส์
ต่อมาตำรวจติดต่อนายคารัมผ่านบุคคลที่สามและยื่นข้อตกลงจะนำตัวนายคารัมมาหาเจ้าหน้าที่ แต่ข้อตกลงถูกยกเลิก และเจ้าหน้าที่เปิดฉากปฏิบัติการตามจับนายคารัม ซึ่งเบื้องต้นถูกตั้งข้อหาดำเนินคดี 13 กระทง
รวมถึงละเมิดข้อบังคับมาตรการสาธารณะ ละเลยการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งควบคุมสถานการณ์โควิด-19 อีก 2 กระทงว่าด้วยการไม่ปฏิบัติตามมาตรการแยกกักตัว และไม่สวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: