โควิดรัสเซียตายทุบสถิติ – วันที่ 18 ต.ค. เดอะการ์เดียน รายงานว่า เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์โจมตีรัฐบาลรัสเซีย สื่อสารสับสนทำให้ประชาชนใช้ชีวิตประมาทต่อไวรัส ยังพบปะปาร์ตี้กันตามปกติ ทั้งที่ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สูงกว่า 1,000 คนต่อวัน

กระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในรัสเซีย เพิ่มทะลุ 1 พันรายเป็นครั้งแรกตั้งแต่ 16 ต.ค. และมียอดผู้ติดเชื้อรายวันทำสถิติใหม่ถึง 34,325 คน ท่ามกลางบรรยากาศที่ชาวรัสเซียใช้ชีวิตเบียดเสียดกันตามปกติ

ล่าสุด ยอดสะสมผู้ติดเชื้อสูงเกิน 8 ล้านคนแล้ว ส่วนยอดผู้เสียชีวิตรวมสูงเกิน 224,310 ราย

FILE PHOTO: รัสเซียเคยคลายล็อกดาวน์ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2020 REUTERS/Shamil Zhumatov

นายแพทย์เดนิส พร็อตเซ็นโก หัวหน้าคณะแพทย์ศูนย์การแพทย์กรุงมอสโก กล่าวเตือนว่า ระบบสาธารณสุขของรัสเซียกำลังมีเตียงรองรับผู้ป่วยลดลงอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ใกล้เข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้วขณะที่การฉีดวัคซีนป้องกันนั้นหยุดชะงักลง

หลายเขตของกรุงมอสโก เริ่มนำระบบสแกนรหัสคิวอาร์กลับมาใช้อีกครั้งตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา และการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กลับกลุ่มเสี่ยง โดยการระบาดนั้นกระจุกตัวอยู่ที่กรุงมอสโก และนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กมากที่สุด ซึ่งเป็นเมืองที่มีมาตรการน้อยที่สุดในยุโรป

A medical specialist transports a patient outside a hospital for people infected with the coronavirus disease (COVID-19) in Moscow, Russia October 13, 2021. REUTERS/Tatyana Makeyeva

นอกจากนี้ ยังเริ่มมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลอาจไม่มีทางเลือกนอกจากต้องนำมาตรการล็อกดาวน์ขั้นสูงสุดกลับมาใช้เหมือนกับเมื่อเดือนมี.ค. 2563 สร้างความหวาดวิตกให้กับห้างร้านเอกชนขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง เนื่องจากที่ผ่านมานั้น ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐน้อยมาก

นางดรากาโนวา เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก กล่าวว่า การล็อกดาวน์ครั้งที่ผ่านมานั้นตนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว จึงต้องการให้รัฐหลีกเลี่ยงมาตรการเช่นนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

มาตรการล็อกดาวน์ที่ทางการรัสเซียเคยนำมาใช้นั้นเคยมีข้อมูลจากการสำรวจพบว่าชาวรัสเซียผู้ให้ข้อมูลร้อยละ 60 ระบุว่าสูญเสียรายได้

Medical specialists transport a patient outside a hospital for people infected with the coronavirus disease (COVID-19) in Moscow, Russia October 6, 2021. REUTERS/Maxim Shemetov

อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์คริสเตียน ฟรอห์ลิช ผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมวิทยาและความแตกแยกจากวิทยาลัยกรุงมอสโก กล่าวว่า ชาวรัสเซียส่วนใหญ่กังวลปัญหาเรื่องปากท้องมากกว่าการติดเชื้อ เนื่องจากมีความคาดหวังกับรัฐบาลต่ำมาก จึงไม่ได้คาดหวังว่ารัฐจะช่วยเหลือ และต้องการใช้ชีวิตทำมาหากินต่อไปตามปกติ

การวิเคราะห์ดังกล่าวสอดคล้องกับปฏิกิริยาของหน่วยงานรัฐหลังนำระบบสแกนรหัสคิวอาร์ผู้ได้รับวัคซีนมาใช้และยกเลิกอย่างรวดเร็วหลังบรรดาเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและกลางร้องเรียน ว่าได้รับผลกระทบทำให้มีรายได้ลดลง

ทว่า เรื่องปากท้องนั้นไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้ชาวรัสเซียหลายคนเลือกที่จะยอมใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยงป่วยเป็นโรคโควิด-19 หลังโพลสำรวจพบชาวรัสเซียที่ตอบแบบสอบถามถึงร้อยละ 55 ระบุว่า ไม่กลัวโรคโควิด-19

สปุตนิก วี วัตซีนของรัสเซีย

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวโทษการสื่อสารที่สับสนของหน่วยงานรัฐทำให้ประชาชนเกิดความเคลือบแคลงสงสัย นำไปสู่ความไม่ไว้ใจรัฐบาล

นายปีเตอร์ ตอลสตอย รองโฆษกรัฐสภารัสเซีย กล่าวยอมรับว่า รัฐบาลนั้นพ่ายแพ้ให้กับสงครามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ไปเรียบร้อยแล้ว

นายเดนิส วอลคอฟ ผู้อำนวยการ เลวาดา เซ็นเตอร์ มูลนิธิจัดทำโพล ระบุว่า หน่วยงานของรัฐสื่อสารข้อมูลที่มีความไม่ชัดเจนและสับสนหลายครั้งเกินไป ขณะที่สถานีโทรทัศน์กระบอกเสียงของรัฐใช้เวลาไปกับการประโคมข่าวสาร ว่าโรคโควิด-19 นั้นไม่น่ากลัว และโจมตีการรับมือของชาติอื่นๆ ที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์

นายวอลคอฟ กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาที่หน่วยงานของรัฐตั้งหลักได้แล้วและพยายามสื่อสารกับประชาชนก็สายเกินไป เพราะประชาชนไม่ให้ความเชื่อถืออีกต่อไปแล้ว

 

นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาหนึ่งพบด้วยว่า ชาวรัสเซียเกือบสองในสามเชื่อว่าโรคโควิด-19 เป็นอาวุธชีวภาพที่มนุษย์สร้างขึ้น และหน่วยงานรัสเซียก็มีท่าทีประกาศชัยชนะต่อโรคโควิด-19 และยุติมาตรการล็อกดาวน์ก่อนการหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น และการชุมนุมทางการเมืองด้วย

ช่วงฤดูร้อนปี 2563 นับเป็นช่วงที่รัสเซียเผชิญกับการระบาดรุนแรงที่สุด แต่หน่วยงานรัฐกลับยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์กะทันหันที่กรุงมอสโกเพื่อพิธีสวนสนาม วันแห่งชัยชนะ (Victory Day) วันที่กองทัพเยอรมันนาซียอมจำนนต่อกองทัพอดีตสหภาพโซเวียต

“กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมึคืนสนองครับ หลายคนเลิกใส่ใจโรคโควิดจริงๆ จังๆ หลังถูกบอกว่าการระบาดมันจบไปแล้วๆ เรื่องนี่ยังทำให้คนไม่พากันไปรับวัคซีนกันอีกด้วยครับ” วอลคอฟ ระบุ

Russia’s daily death toll from COVID-19 has exceeded 1000 for the first time as the country faces a sustained wave of rising infections. (AP Photo/Alexander Zemlianichenko)

ข้อมูลล่าสุด ระบุว่า มีผู้ได้รับวัคซีนไปแล้วเพียงเกือบหนึ่งในสามของประชากรทั้งหมดในรัสเซีย และชาวรัสเซียกว่าครึ่งไม่ประสงค์จะรับวัคซีน ท่ามกลางการระบาดที่ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง

นพ.พร็อตเซ็นโก กล่าวอ้อนวอนผ่านแอพพลิเคชั่นเทเลแกรมส่วนตัวให้บรรดาชาวรัสเซียเดินทางไปรับวัคซีนโดยเร็วที่สุด

“ทุกคนครับ โควิดนั้นเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ หรือนิยาย” และว่า “มันสุดยอดมากที่ผมยังต้องมานั่งบอกแบบนี้กับทุกคน ทั้งที่โควิดมันระบาดมาเป็นปีที่สองแล้ว” นพ.พร็อตเซ็นโก ตัดพ้อ

ขณะที่บรรดาชาวรัสเซียใช้ชีวิตกันอย่างเบียดเสียดและสังสรรค์กันอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว บรรดาแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต่างพากันเตือนถึงความมืดมนที่กำลังจะตามมาในเวลาอันใกล้

นางพยาบาลคาเทอรีนา อายุ 24 ปี หนึ่งในนักศึกษาพยาบาลที่ถูกเกณฑ์มาช่วยงานในโรงพยาบาลคอมมูนาร์กา กรุงมอสโก กล่าวว่า พวกตนทำงานต่อไม่ไหวแล้วหากจะมีระลอกใหม่

“หนูต้องทนเห็นผู้ป่วยเสียชีวิตทุกวัน ทั้งๆ ที่วัคซีนป้องกันก็มีให้ฉีดอยู่ด้านนอก หนูเห็นแล้วโกรธมากค่ะ” คาเทอรีนา ระบุ

+++++++++++

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โควิดคร่ารัสเซีย ตายวันเดียว เกิน 1,000 ราย ครั้งแรก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน