ซีเอ็นเอ็นรายงานเมื่อ 24 ต.ค. ถึงความคืบหน้าปฏิบัติการยึดคืนเมืองโมซุล เมืองยุทธศาสตร์ทางตอนเหนือของอิรัก จากการยึดครองของกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส)ว่า กองกำลังนักรบชาวเคิร์ด เปชเมอร์กากว่า 10,000 คนเคลื่อนพลเข้าใกล้เมืองโมซุลในระยะห่างราว 8 กิโลเมตรเท่านั้น ขณะที่กองทัพอิรักพร้อมด้วยพันธมิตรบุกประชิดหมู่บ้านรอบๆ เมืองโมซุลได้เกือบทั้งหมด ด้านกองทัพสหรัฐอเมริกา แกนนำกองทัพนานาชาติปราบปรามไอเอสเปิดเผยว่า นักรบไอเอสในเมืองโมซุลและรอบๆ อาณาบริเวณมีจำนวนเหลือไม่ถึง 5,000 คน จากเดิมกว่า 7,000 คน
ขณะที่กองกำลังไอเอสพยายามก่อการร้ายป่วนเมืองคีร์คุก และเมืองรุตบาร์ในจังหวัดอันบาร์ เพื่อดึงความสนใจของกองทัพอิรักจากปฏิบัติการโจมตีเมืองโมซุล กองกำลังเปชเมอร์กาประกาศยึดครองหมู่บ้านอย่างน้อย 8 แห่งใกล้เขตบาชิกา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองโมซุล รวมทั้งกำลังบุกยึกเมืองกอรากอช เมืองคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในอิรัก ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองโมซุล โดยผู้บัญชาการเปชเมอร์การะบุว่าไอเอสเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่ร้ายกาจ และจะต้องตายในสงครามนี้
ด้านพลโทอิสมาอิล อัล-มาฮาลาวี ผู้บัญชาการปฏิบัติการรบในจังหวัดอันบาร์เปิดเผยว่า ระหว่างเกิดการปะทะกับไอเอสเมื่อสุดสัปดาห์ นักรบไอเอสก่อเหตุสังหารชาวอิรักอย่างน้อย 5 ราย ในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษรวมอยู่ด้วย
วันเดียวกัน นายแอชตัน คาร์เตอร์ รมว.กลาโหมสหรัฐ กล่าวระหว่างเยือนเคอร์ดิสถานว่า ขณะที่ปฏิบัติการยึดคืนโมซุลกำลังคืบหน้า กองทัพนานาชาติควรเปิดฉากภารกิจตีวงล้อมโดดเดี่ยวกองกำลังไอเอสในเมืองอัร-ร็อกเกาะฮ์ เมืองหลวงของไอเอสในซีเรีย เพื่อกำจัดไอเอสให้หมดไปจากภูมิภาคโดยเร็วที่สุด และว่าการโจมตีไอเอสในสองเมืองหลักพร้อมๆ กันเป็นกลยุทธ์ที่กองทัพนานาชาติวางแผนด้วยกันมาพักหนึ่งแล้ว นอกจากนี้ ยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องเร่งทำอีกประการคือ ตัดกำลังไอเอสจากภายนอกฐานตั้งมั่นในอิรักและซีเรีย
