คู่รักจีนทำคลิปถ่ายทอดชีวิตชนบท มีผู้ติดตามหลายสิบล้าน ล่าสุดโดนแฉยับ ทั้งหมดจัดฉากขึ้น ชื่อ ที่อยู่ แม้แต่พ่อแม่ เพื่อนบ้านยังปลอม!
หากใครเป็นแฟนติ๊กต็อกหรือชอบชมคลิปเกี่ยวกับวิถีชีวิตชนบทของจีน อาจจะพอรู้จักหรือคุ้นหน้าของ “เสี่ยว ชุนหัว” และ “หนิว อ้ายฟาง” สองสามีภรรยาชาวจีนคู่นี้มาบ้าง
โดยเนื้อหาของคลิปนั้นแสนเรียบง่าย ส่วนใหญ่เป็นการถ่ายทอดชีวิตประจำวันของคู่สามีภรรยา ทำไร่ทำสวน เลี้ยงวัวเลี้ยงหมู ดูแลพ่อแม่วัยชราและมีเพื่อนบ้านที่แสนน่ารัก เรียกได้ว่าท่ามกลางชีวิตแบบทุนนิยมในปัจจุบัน การได้ชมคลิปแนวนี้ถือเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย จนทำให้ทั้งคู่มีผู้ติดตามมากถึง 20 ล้านคน
สำหรับที่มาของสองสามีภรรยา เดิมทีทั้งคู่อาศัยอยู่กับญาติเป็นครอบครัวใหญ่ แต่ทั้งคู่ใฝ่ฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง จึงเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวสร้างบ้านขึ้นมา แม้มันจะเป็นเพียงบ้านอิฐหลังเล็ก ๆ ไม่ได้ตกแต่งสวยงาม แต่ทั้งคู่ก็มีความสุขมาก นอกจากนี้ทั้งคู่ยังมีมิตรไมตรีกับคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านอีกด้วย แต่มันช่างน่าเศร้าเพราะที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเรื่องหลอกลวง
เมื่อไม่นานมานี้ เริ่มมีชาวเน็ตออกมาแฉสองสามีภรรยาลวงโลก เพราะก่อนหน้าทั้งคู่เคยไลฟ์สดขายมีด ที่อวดอ้างสรรพคุณมากมาย แฟน ๆ ต่างพากันอุดหนุน มีรายงานว่าทั้งคู่สามารถทำรายได้จากการไลฟ์ครั้งนี้สูงถึง 2 ล้านหยวน (ประมาณ 10 ล้านบาท) แต่ต่อมาชาวเน็ตก็เริ่มออกมาวิจารณ์ว่า มีดของทั้งคู่มีคุณภาพต่ำ ทำให้ทั้งคู่เริ่มตกเป็นเป้าข่าว
จากนั้นชาวเน็ตได้งัดหลักฐานออกมาแฉว่า ทั้งคู่ไม่ใช่ชาวไร่ชาวสวนอย่างที่แสร้งทำ โดย เสี่ยว ชุนหัว มีชื่อจริงว่า “จางซุย” เป็นเจ้าของบริษัทที่มีทุนจดทะเบียน 50,000 หยวน (ประมาณ 250,000 บาท) ส่วน หนิว อ้ายฟาง มีชื่อจริงว่า “หลิว อ้ายฟาง”
โดยชาวเน็ตได้ขุดรูปก่อนแต่งงานของทั้งคู่ มันแสดงให้เห็นว่าที่บ้านของทั้งคู่มีฐานะพอสมควร เพราะแต่งกายดูดี สวมสร้อยทอง ไม่ได้มีหน้าตามอมแมมอย่างที่ปรากฏในคลิปแม้แต่น้อย
เท่านั้นยังไม่พอ ผู้คนรอบข้างของพวกเขาต่างถูกจ้างมาทั้งสิ้น ไม่เว้นแต่พ่อแม่วัยชรา โดยมีชาวเน็ตตาดีสังเกตว่า ผู้คนรอบข้างเหล่านี้ต่างเป็นนักแสดงประกอบ เคยมีผลงานเล็ก ๆ น้อย ๆ มาก่อน
ส่วนบ้านอิฐหลังเล็กนั้น ทีมงานได้เซ็ตขึ้นมาสำหรับการถ่ายทำโดยเฉพาะ ไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นั่นจริง เรียกได้ว่า หลังจากข่าวถูกเผยแพร่ไป ชาวเน็ตและผู้ติดตามต่างพากันผิดหวัง ทำให้ยอดผู้ติดตามของทั้งคู่ลดฮวบเลยทีเดียว
ขอบคุณที่มา appledaily, huaglad
