สหรัฐอเมริกา-อังกฤษ – วันที่ 24 พ.ย. บีบีซี รายงานว่า สหรัฐอเมริการะบุว่า กำลังระบายน้ำมัน 50 ล้านบาร์เรล จากคลังสำรองของสหรัฐ เพื่อพยายามลดราคาพลังงานและน้ำมันโลกที่พุ่งสูงขึ้น

ทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์ว่า “ผู้บริโภคอเมริกันกำลังรู้สึกผลกระทบของราคาน้ำมันที่สูงขึ้นที่สถานีบริการเชื้อเพลิง และในใบเสร็จค่าทำความร้อนในบ้าน และธุรกิจอเมริกันด้วย เนื่องจากอุปทานน้ำมันไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ นั่นเป็นเหตุผลที่ประธานาธิบดีไบเดนใช้มาตรการทุกอย่างที่มีเพื่อทำให้ราคาลดและแก้ไขปัญหาการขาดของอุปทาน”

President Joe Biden on Tuesday will announce the Department of Energy will release 50 million barrels of oil from the Strategic Petroleum Reserve as part of an effort to lower high gas prices and address the lack of oil supply around the world. Biden is shown here at the Port of Baltimore on Wednesday, Nov. 10, 2021.

การระบายน้ำมันของสหรัฐควบคู่ไปกับประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่อื่นๆ เช่น สหราชอาณาจักร รัฐบาลจะอนุญาตให้บริษัทต่างๆ ระบายน้ำมัน 1.5 ล้านบาร์เรลโดยสมัครใจ จากคลังสำรองของภาคเอกชน โดยกล่าวว่าจะสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ผลประโยชน์สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนในประเทศมีแนวโน้มที่จะถูกจำกัดและลดโดยอัตโนมัติ

ขณะที่อินเดียจะระบายน้ำมัน 5 ล้านบาร์เรล จากคลังสำรอง ส่วนเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีน จะประกาศปริมาณและระยะเวลาที่จะระบายน้ำมันในเวลาเหมาะสม

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ขอร้องหลายครั้งให้องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (โอเปก) เพิ่มผลผลิตน้ำมันเร็วขึ้น แต่โอเปกยังยึดมั่นต่อข้อตกลงที่จะเพิ่มการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไปเท่านั้น โดยกังวลว่าการกลับมามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีก จะทำให้อุปสงค์ลดลง เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อถึงจุดสูงสุดของการระบาดใหญ่

ราคาน้ำมันดิบเพิ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ท่ามกลางอุปสงค์ทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งผลักดันให้ราคาน้ำมันและค่าพลังงานเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ

FILE PHOTO: An oil storage tank and crude oil pipeline equipment is seen during a tour by the Department of Energy at the Strategic Petroleum Reserve in Freeport, Texas, U.S. June 9, 2016. REUTERS/Richard Carson

เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า เป็นครั้งแรกที่สหรัฐมีการประสานงานความเคลื่อนไหวเช่นนี้กับบางประเทศที่เป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่นักวิเคราะห์ตั้งคำถามว่าจะมีผลกระทบมากหรือไม่

แคโรไลน์ เบน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์ที่แคปิตอล อีโคโนมิกส์ (Capital Economics) กล่าวว่า “การประสานงานดังกล่าวไม่มากพอที่จะทำให้ราคาน้ำมันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และอาจส่งผลตรงข้ามด้วยซ้ำ หากโอเปกพลัส (องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออกที่รวมรัสเซียด้วย) จะชะลอความเร็วในการเพิ่มผลผลิตน้ำมัน

 

แคโรไลน์ เบน กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ มันดูจะเป็นเชิงสัญลักษณ์และมีแรงจูงใจทางการเมือง และว่าความเคลื่อนไหนในการระบายน้ำมันจากคลังสำรองดูจะอยู่ไม่ค่อยนาน ด้วยความเห็นเอกฉันท์ในหมู่นักวิเคราะห์ว่า หากโอเปกพลัสยังสูงน้ำมันเพิ่มขึ้น ตลาดจะเข้าสู่ภาวะเกินดุลในไตรมาสแรกของปีหน้า

“สิ่งนี้เองจะทำให้ราคาน้ำมันลดลงโดยธรรมชาติ” แคโรไลน์ เบน กล่าว

 

ทั้งนี้ โอเปกพลัสปฏิเสธหลายครั้งแล้วซึ่งคำขอที่จะสูบน้ำมันเพิ่มที่การประชุมประจำเดือนของโอเปกพลัส เป็นเหตุให้สหรัฐเกิดความไม่พอใจ แต่ความพยายามของรัฐบาลสหรัฐในความร่วมมือกับประเทศเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ เพื่อลดราคาพลังงาน เป็นการส่งสัญญาณเตือนไปถึงโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อื่นๆ ว่า จำเป็นต้องแก้ไขข้อกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ปีนี้

เจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายบริหารสหรัฐกล่าวว่า “เราจะเจรจากับพันธมิตรระหว่างประเทศในประเด็นนี้ต่อไป ประธานาธิบดีสหรัฐพร้อมดำเนินการเพิ่มเติมหากจำเป็น และพร้อมใช้อำนาจอย่างเต็มที่ในการประสานงานกับส่วนที่เหลือของโลก”

LOS ANGELES, CALIFORNIA – NOVEMBER 23: Oil pumpjacks stand in the Inglewood Oil Field on November 23, 2021 in Los Angeles, California. President Biden announced a plan to release oil from the Strategic Petroleum Reserve in an effort to curb high gas prices. Mario Tama/Getty Images/AFP
== FOR NEWSPAPERS, INTERNET, TELCOS & TELEVISION USE ONLY ==

ด้านคาสเทิน ฟริทช์ นักวิเคราะห์คอมแมร์ซบังค์ (Commerzbank) จากเยอรมนี กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำให้โอเปกพลัสต้องทบทวนกลยุทธ์ของตัว และตกลงที่จะเพิ่มผลผลิตน้ำมันในการประชุมสัปดาห์หน้า

“50 ล้านบาร์เรลเทียบเท่ากับการเพิ่มการผลิตน้ำมัน 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นเวลาหนึ่ง 1 หรือ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็นเวลา 7 สัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างมีนัยสำคัญ” คาสเทิน ฟริทช์ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ราคาน้ำมันโลกพุ่งทะลุฟ้า รอบ7ปี ถ่านหินจีนก็กระฉูด โอเปกพลิกได้เปรียบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน