วันที่ 13 ก.พ. สำนักข่าวอินโดนีเซีย อันทารา รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอินโดนีเซียในจังหวัดบาหลี ดำเนินการเนรเทศ พลเมืองหญิงไทย อายุ 35 ปี ชื่อย่อ เอ็มยูเอส (MUS) กลับบ้านเกิด ซึ่งรับโทษจำคุกครบ 11 ปี ในคดีลักลอบขน ยาเสพติด เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ก.พ.

นายจามารูลี มานีฮูรุก หัวหน้าสำนักงานบาหลี กระทรวงกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า การเนรเทศมีขึ้นหลังหญิงไทยได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเกโรโบคัน ตามการยืนยันในจดหมายลงวันที่ 4 ม.ค. 2565 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินไปยังประเทศต้นทางของหญิงไทย การเนรเทศจึงล่าช้า และให้หญิงไทยไปอยู่ศูนย์กักกันคนเข้าเมืองเป็นเวลา 37 วัน ขณะรอเดินทางออกนอกประเทศ

นายมานีฮูรุกกล่าวว่า หญิงไทยถูกเนรเทศออกนอกประเทศในที่สุด เนื่องจากการออกเอกสารการเดินทางฉุกเฉินของสถานทูตไทย ตลอดจนความพร้อมของเที่ยวบินและบัตรโดยสารสำหรับยืนยันเอกสารโรคโควิด-19

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง 3 คน ติดตามหญิงไทย ขณะเดินทางด้วยเที่ยวบินจากท่าอากาศยานนานาชาติงูระห์ไรของบาหลี ไปท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน ฮัตตา กรุงจาการ์ตา โดยสารเที่ยวบินการบินไทย ทีจี 434 เมื่อ 13.36 น. ตามเวลาท้องถิ่น ปลายทางคือกรุงเทพมหานคร

หญิงไทยคนนี้ถูกจับกุมที่ท่าอากาศยานนานาชาติงูระห์ไรของบาหลี เมื่อ 16 ธ.ค. 2553 ในข้อหาลักลอบขน ยาเสพติด 1,280 เม็ด และเมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) 2.68 กรัม จากไทยเข้ามาในอินโดนีเซีย โดยกลืนลงท้อง แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากรและสรรพสามิตอินโดนีเซียสามารถสกัดได้

ทั้งนี้ อินโดนีเซียยังเผชิญภัยคุกคามอย่างร้ายแรงจากผู้ค้ายาเสพติดในประเทศและข้ามชาติ ซึ่งมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพเนื่องจากมีประชากรจำนวนมากและผู้ใช้ยาเสพติดหลายล้านคน และแม้จะมีการระบาดอย่างต่อเนื่องของโควิด-19 ที่จำกัดการเคลื่อนไหวและการปิดพรมแดนของประเทศต่างๆ เพื่อควบคุมการแพร่เชื้อ แต่การค้ายาเสพติดยังไม่เปลี่ยนแปลง

สำนักงานปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (BNN) ของอินโดนีเซียระบุว่า ชาวอินโดนีเซียอย่างน้อย 50 รายเสียชีวิตจากการใช้ ยาเสพติด ทุกวัน อย่างไรก็ตาม สถิติดังกล่าวไม่สามารถยับยั้งผู้ใช้ ยาเสพติด ในประเทศได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ตำรวจฮ่องกง สกัดแท็กซี่-ไล่กวดรถยนต์ พบ เฮโรอีน ไอซ์ 677 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน