ผู้นำเบลารุส ชี้ “ยอมรับไม่ได้” หากรัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครน
วันที่ 6 พ.ค. เอพี รายงานการสัมภาษณ์นายอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโค ผู้นำเบลารุส ที่ออกมาปกป้องรัสเซียในการรุกรานยูเครน แต่คาดไม่ถึงว่า ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลา 10 สัปดาห์ “จะลากยาวแบบนี้”
นายลูคาเชนโคยังต่อต้านการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครน แต่ไม่ได้กล่าวว่าประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีมีร์ ปูติน มีแผนการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่
นายลูคาเชนโคให้สัมภาษณ์เอพีที่ทำเนียบชื่ออินดีเพนเดนต์ พาเลส (Independence Palace) ในกรุงมินสค์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ค. กล่าวว่า รัสเซียซึ่งเปิดฉากการรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. และส่วนหนึ่งมาจากดินแดนเบลารุส จำเป็นต้องทำเพราะยูเครน “ยั่วยุรัสเซีย”
“แต่ผมไม่ได้หมกมุ่นกับปัญหานี้มากพอที่จะบอกว่า ทุกอย่างเป็นไปตามแผนอย่างที่รัสเซียพูดหรืออย่างที่ผมรู้สึก ผมต้องการย้ำอีกครั้งว่า ผมรู้สึกว่าปฏิบัติการนี้จะลากยาวต่อไป” นายลูคาเชนโคกล่าว
การสนับสนุนสงครามของนายลูคาเชนโคทำให้นานาชาติวิจารณ์และดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อเบลารุส ทหารรัสเซียบางส่วนถูกส่งจากดินแดนเบลารุสเข้าไปในยูเครน และนายลูคาเชนโคมีจุดยืนข้างพันธมิตรยาวนานอย่างรัสเซียอย่างเปิดเผย
อย่างไรก็ตาม นายลูคาเชนโคบอกเอพีว่า ตนและประเทศตนมีจุดยืนเพื่อสันติภาพและเรียกร้อง ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อยุติ “สงคราม” ซึ่งเป็นคำที่รัสเซียไม่ใช้แต่เรียกการรุกรานยูเครนด้วยชื่อ “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” แทน
ผู้นำเบลารุส วัย 67 ปี ให้สัมภาษณ์เอพีด้วยน้ำเสียงสงบและใช้เวลาเกือบ 90 นาที มากกว่าการปรากฏตัวทางสื่อครั้งก่อนๆ ซึ่งผู้นำเบลารุสจะโจมตีตะวันตกเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรและประณามนักข่าว
“เราไม่ยอมรับสงครามอย่างเด็ดขาด เราทำแล้วและกำลังทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้สงครามเกิดขึ้น ต้องขอบคุณพวกคุณจริงๆ ที่ทำให้การเจรจาระหว่างยูเครนและรัสเซียเริ่มต้นขึ้น” นายลูคาเชนโคกล่าว
ผู้นำเบลารุสกล่าวว่า การใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครนเป็นการกระทำที่ “ไม่สามารถยอมรับได้ เนื่องจากอยู่ติดกับประเทศเรา เราไม่ได้อยู่ข้ามมหาสมุทรเหมือนสหรัฐอเมริกา และไม่สามารถยอมรับเนื่องจากอาจทำให้โลกเราหลุดจากวงโคจรไปที่ซึ่งใครจะไปรู้ ไม่ว่ารัสเซียจะสามารถทำได้หรือไม่ เป็นคำถามที่คุณต้องถามผู้นำรัสเซีย”
นายลูคาเชนโกกล่าวว่า รัสเซีย “ตามคำจำกัดความไม่สามารถแพ้สงครามครั้งนี้ได้” พร้อมระบุว่า เบลารุสเป็นประเทศเดียวที่ยืนหยัดเคียงข้างรัสเซีย ขณะที่มากถึง 50 ประเทศ เข้าร่วมกองทัพทางฝั่งยูเครน
นายลูคาเชนโคเสริมว่า นายปูตินไม่ได้แสวงหาความขัดแย้งโดยตรงกับนาโต (องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ) และตะวันตกควรทำให้แน่ใจว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น “ปูตินน่าจะไม่ต้องการเผชิญหน้าระดับโลกกับนาโต ใช้มันและทำทุกอย่างไม่ให้ความขัดแย้งเกิดขึ้น มิฉะนั้น แม้ว่าปูตินจะไม่ต้องการ แต่กองทัพรัสเซียจะตอบโต้” ผู้นำเบลารุสเตือน
นายลูคาเชนโคเรียกนายปูตินเป็น “พี่ใหญ่” และว่าผู้นำรัสเซียไม่มี “ความสัมพันธ์ใกล้ชิด เปิดกว้าง หรือเป็นมิตรกับผู้นำโลกอื่นใดนอกจากประธานาธิบดีเบลารุส”
นายลูคาเชนโคบอกเอพีว่า ประเทศตนไม่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น แม้ว่ากองทัพเบลารุสจะซ้อมรบสัปดาห์นี้ “เราไม่ได้ข่มขู่ใครไม่ได้กำลังข่มขู่ และจะไม่ข่มขู่ด้วย ยิ่งกว่านั้น เราไม่สามารถข่มขู่ได้ เรารู้ว่าใครต่อต้านเรา ดังนั้น เพื่อปลดปล่อยความขัดแย้ง การทำสงครามที่นี่…ไม่ได้เป็นเพื่อผลประโยชน์ของรัฐเบลารุสเด็ดขาด ดังนั้น ตะวันตกสามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจ”
นายลูคาเชนโกกล่าวโทษตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐ ที่เติมเชื้อไฟความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนว่า “สหรัฐต้องการยึดช่วงเวลานี้ ผูกพันธมิตรกับตนเอง และให้รัสเซียจมปลักในสงครามกับยูเครน เป้าหมายของพวกเขาคือการจัดระเบียบรัสเซีย และจีน”
นายลูคาเชนโกกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดียูเครน นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี กำลังรับคำสั่งจากสหรัฐ “วันนี้ไม่ใช่เซเลนสกีที่บริหารยูเครน – ไม่ผิด นั่นคือมุมมองของผม บางทีผมอาจคิดผิด” และเสริมว่า หากประธานาธิบดีสหรัฐ นายโจ ไบเดน กล่าวเช่นนั้น “ทุกอย่างจะหยุดภายใน 1 สัปดาห์”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เบลารุสยกระดับร่วมสหพันธรัฐ ลั่นเคียงข้างรัสเซียงัดคว่ำบาตร