ศรีลังกา วอนชาวนาปลูกข้าวมากขึ้น หวั่นขาดแคลนอาหารรุนแรง
วันที่ 1 มิ.ย. เอเอฟพี และ บีบีซี รายงานว่า นายมหินทา อมราวีระ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ศรีลังกา เรียกร้องให้ชาวนาปลูกข้าวมากขึ้นในอีก 5-10 วันข้างหน้า เนื่องจากสถานการณ์อาหารกำลังแย่ลง ขณะเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายสุดในรอบกว่า 70 ปี จากการขาดแคลนสกุลเงินต่างประเทศและอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ส่งผลต่อการขาดแคลนอาหาร เวชภัณฑ์ เชื้อเพลิง และสิ่งจำเป็นอื่นๆ
อันเป็นความพยายามมองหาวิธีการส่งเสริมการผลิตอาหาร หลังนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห เตือนถึงการขาดแคลนอาหารรุนแรงภายในเดือนสิงหาคม และทางการศรีลังกากำลังขอความช่วยเหลือจากธนาคารอาหารเอเชียใต้ ซึ่งจัดหาข้าวและสินค้าอื่นๆ แก่ประเทศขาดแคลน
วันเดียวกัน ทางการศรีลังกาเปิดเผยข้อมูลว่า อัตราเงินเฟ้อของประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นเดือนที่แปดติดต่อกันในเดือนพ.ค. ดัชนีราคาผู้บริโภคโคลัมโบ (ซีซีพีไอ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.1 เทียบเป็นรายปีเมื่อเดือนที่แล้ว เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 29.8 ในเดือนเมษายน ส่วนอัตราเงินเฟ้ออาหารในกรุงโคลัมโบอยู่ที่ร้อยละ 57.4 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 46.6 ในเดือนเมษายน อันเป็นผลมาจากการขาดแคลนสินค้าจำเป็นรุนแรง รวมถึงอาหาร
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอังคารที่ 31 พ.ค. รัฐบาลศรีลังกาประกาศเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ทันทีจากร้อยละ 8 เป็นร้อยละ 12 คาดจะช่วยเพิ่มรายได้ของรัฐบาล 65,000 ล้านรูปีศรีลังกา (6,175 ล้านบาท) ที่จะนำมาช่วยใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าสำคัญ รวมถึงเชื้อเพลิงและอาหาร และจะเพิ่มภาษีนิติบุคคลจากร้อยละ 24 เป็นร้อยละ 30 ในเดือนตุลาคม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ธนาคารโลกช่วยศรีลังกา “ให้สินเชื่อ” 5,500 ล้าน บรรเทาวิกฤตขาดเชื้อเพลิง
ศรีลังกา จ่อเป็น “ชาติเบี้ยวหนี้” รมว.พลังงานเผย ไม่มีเงินนำเข้าเชื้อเพลิงแล้ว
น้ำมันเหลือวันสุดท้าย ศรีลังกาเศร้าเตรียมรับวิกฤต-ม็อบลุยขับไล่ปธน.