นายกฯ อินเดียชี้ “ประเทศพัฒนาแล้ว” ตัวการปล่อยคาร์บอน-จี้ร่วมรับผิดชอบ
นายกฯ อินเดียชี้ – ซินหัว รายงานว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมที ผู้นำอินเดีย กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ชาติตะวันตกและกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมีส่วนรับผิดชอบต่อ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ขนานใหญ่ และอินเดียกำลังพยายามแก้ไขปัญหาแม้มีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพียงเล็กน้อย
File Photo: Indian Prime Minister Narendra Modi held developed nations responsible for large-scale carbon emissions on Sunday. “India is making this effort when India’s role in climate change is negligible,” Modi said in a speech marking the World Environment Day. REUTERS
นายโมทีชี้ว่ากลุ่มประเทศสมัยใหม่ขนาดใหญ่ไม่เพียงตักตวงผลประโยชน์จากทรัพยากรโลกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังมีส่วนรับผิดชอบต่อการปล่อยคาร์บอนระดับสูงสุดด้วย โดยรอยเท้าคาร์บอนเฉลี่ยของโลกอยู่ที่ราว 4 ตันต่อคนต่อปี ส่วนตัวเลขดังกล่าวของอินเดียอยู่ที่ราว 0.5 ตันต่อคนต่อปี
นอกจากนั้นผู้นำอินเดียเน้นย้ำว่าความพยายามปกป้องสิ่งแวดล้อมของอินเดียนั้นมีหลากหลายแง่มุม อินเดียมุ่งบรรลุเป้าหมายปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2613 หรืออีก 48 ปีข้างหน้า และกำลังปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ระยะยาวร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศเพื่อคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
อีกทั้งยังได้จัดตั้งองค์กรต่างๆ อาทิ แนวร่วมเพื่อโครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่นต่อภัยพิบัติ (ซีดีอาร์ไอ) และพันธมิตรพลังงานแสงอาทิตย์ระหว่างประเทศ (ไอเอสเอ)
File Photo: A waste collector climbs down while looking for recyclable materials as smoke billows from burning garbage at the Bhalswa landfill site on World Environment Day in New Delhi, India. Modi said the average carbon footprint of the world is about 4 tons per person per annum while the figure of India is about 0.5 ton per person per annum. Modi underlined that India’s efforts to protect the environment have been multifaceted. REUTERS
A general view shows brick factories as smoke rises from the stacks in the town of Nahrawan in Baghdad, Iraq June 5, 2022. REUTERS/Thaier al-Sudani
Advertisement
A general view shows a brick factory as smoke rises from the stacks in the town of Nahrawan in Baghdad, Iraq June 5, 2022. REUTERS/Thaier al-Sudani
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
