นายกรัฐมนตรีศรีลังกา เผยเศรษฐกิจประเทศ พังทลายอย่างสิ้นเชิง
วันที่ 23 มิ.ย. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายกรัฐมนตรีศรีลังกา รานิล วิกรมสิงเห กล่าวเมื่อวันพุธที่ 22 มิ.ย. ว่า เศรษฐกิจของศรีลังกาพังทลายอย่างสิ้นเชิง ขณะที่ประเทศที่ประสบวิกฤตเผชิญสถานการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนนับล้านต้องดิ้นรนต่อสู้กับการขาดแคลนเชื้อเพลิง
“เศรษฐกิจของเราเผชิญการพังทลายอย่างสิ้นเชิง” นายวิกรมสิงเหชี้แจงรัฐสภาศรีลังกา โดยเสริมว่า รัฐบาลกำลังขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรทั่วโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ แต่เตือนด้วยว่า ศรีลังกาที่มีประชากร 22 ล้านคนกำลังเผชิญสถานการณ์ร้ายแรงกว่ามาก มากกว่าการขาดแคลน
ศรีลังกาอยู่ในท่ามกลางวิกฤตการเงินครั้งเลวร้ายสุดในรอบ 7 ทศวรรษ หลังทุนสำรองเงินตราต่างประเทศดิ่งสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยสกุลเงินดอลลาร์หมดไปกับการใช้จ่ายสำหรับสินค้านำเข้าสำคัญๆ รวมถึงอาหาร ยารักษาโรค และเชื้อเพลิง
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ รัฐบาลดำเนินมาตรการขั้นรุนแรงเพื่อรับมือวิกฤตดังกล่าว รวมถึงการจัดการทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน สำหรับเจ้าหน้าที่ภาครัฐเพื่อมีเวลาปลูกพืชผลของตนเอง อย่างไรก็ตาม มาตรการเหล่านี้ไม่ได้ช่วยบรรเทาการดิ้นรนที่หลายคนในประเทศต้องเผชิญ
ในหลายเมืองสำคัญๆ รวมถึงกรุงโคลอมโบ เมืองหลวงการค้า หลายร้อยคนยังต่อแถวหลายชั่วโมงเพื่อซื้อเชื้อเพลิง บางครั้งปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารขณะรอ ขณะที่รถไฟลดเที่ยวการเดินทาง บีบให้ผู้เดินทางต้องแออัดยัดเยียดในห้องผู้โดยสาร แม้แต่นั่งบนหลังคารถไฟขณะเดินทางไปทำงาน
ส่วนผู้ป่วยไม่สามารถเดินทางไปโรงพยาบาลได้เนื่องจากการขาดแคลนเชื้อเพลิง และราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น ข้าว อาหารหลักในศรีลังกา หายไปจากชั้นวางในหลายร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า สัปดาห์นี้สัปดาห์เดียวประชาชนเสียชีวิต 11 ราย ขณะต่อแถวเพื่อต้องการเชื้อเพลิง
นายวิกรมสิงเห ซึ่งเข้ารับตำแหน่งไม่กี่วันหลังการลาออกของนายมหินทา ราชปักษา นายกรัฐมนตรีคนก่อนจากการประท้วงดุเดือด ดูจะโทษรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ที่เป็นต้นเหตุของสถานการณ์ประเทศ
“ไม่ง่ายที่จะฟื้นฟูประเทศที่มีเศรษฐกิจทรุดตัวอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่มีทุนสำรองต่างประเทศต่ำอย่างอันตราย หากอย่างน้อยดำเนินการเพื่อชะลอการพังทลายของเศรษฐกิจในช่วงเริ่มต้น เราจะไม่ต้องเผชิญสถานการณ์ยากลำบากเหล่านี้” นายวิกรมสิงเหกล่าวเมื่อวันพุธที่ 22 มิ.ย.
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีไฟฟ้าและพลังงานของศรีลังกาบอกว่า ประเทศมีคลังเชื้อเพลิงเพียงพอที่จะใช้สำหรับ 5 วันเท่านั้น
ศรีลังกาพึ่งพาเพื่อนบ้านอย่างอินเดียเป็นหลักเพื่อคงสถานะเดิมของประเทศ โดยได้รับวงเงินสินเชื่อ 4,000 ล้านดอลลาร์ แต่นายวิกรมสิงเหกล่าวเช่นกันว่านั่นอาจไม่เพียงพอ
“เราได้ขอความช่วยเหลือเงินกู้เพิ่มเติมจากคู่ค้าชาวอินเดียของเรา แต่แม้แต่อินเดียไม่สามารถสนับสนุนเราในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง เป้าหมายของเราคือหารือกับไอเอ็มเอฟ และบรรลุข้อตกลงเพื่อขอสินเชื่อเพิ่มเติม นี่คือทางเลือกเดียวของเรา เราต้องใช้ทางเลือกนี้” นายวิกรมสิงเหกล่าว
นายวิกรมสิงเหเสริมว่า ขณะนี้ศรีลังกาหารือกับธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย และสหรัฐ เพื่อจัดหาเงินกู้ระยะสั้นระหว่างกาล (interim short-term loans) จนกว่าศรีลังกาจะได้รับการสนับสนุนจากไอเอ็มเอฟ และว่าคณะผู้แทนจากกระทรวงการคลังสหรัฐจะมาถึงศรีลังกาสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ศรีลังกาจะหาความช่วยเหลือจากจีนและญี่ปุ่น 2 ประเทศหลักที่ให้ศรีลังกากู้ยืม
“หากเราได้รับการอนุมัติจากไอเอ็มเอฟ โลกจะวางใจเราอีกครั้ง จะช่วยให้เราได้รับความช่วยเหลือเงินกู้และเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากประเทศอื่นๆ ในโลก” นายวิกรมสิงเหกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
รัฐมนตรีพลังงาน ศรีลังกา เผยประเทศเหลือเชื้อเพลิงใช้แค่ 5 วัน