สหรัฐฯวุ่น! ศาลสูงสุดมีคำสั่งตัดสินให้เพิกถอนสิทธิการทำแท้ง ไบเดนประณามเป็น ‘วันโศกนาฏกรรมชาติ’
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. เอเอฟพีรายงานว่า ศาลสูงสุดประเทศสหรัฐอเมริกามีคำสั่งตัดสินให้เพิกถอนสิทธิการทำแท้งออกจากเสรีภาพของชาวอเมริกัน สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วสังคมสหรัฐฯ และเรียกเสียงประณามจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เนื่องจากเป็นการพลิกคำตัดสินของศาลสูงสุดสหรัฐฯที่เคยตัดสินไว้ว่าการทำแท้งเป็นสิทธิที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญเมื่อ 50 ปีก่อน
คำตัดสินดังกล่าวส่งผลให้ชาวอเมริกันที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินออกมาชุมนุมล้อมอาคารศาลสูงสุดของสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน พร้อมเดินขบวนแสดงพลังในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ขณะที่กลุ่มชาวอเมริกันที่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลสูงสุดและต่อต้านการทำแท้งนั้นต่างพากันแสดงความปลาบปลื้มกันอย่างลิงโลด พร้อมระบุว่า “ชีวิต” นั้นประสบชัยชนะแล้ว
รายงานระบุว่า คำตัดสินที่เกิดขึ้นของศาลสูงสุดของสหรัฐนั้นมีตุลากรส่วนใหญ่ที่มีจุดยืนค่อนไปทางอนุรักษนิยม ถือเป็นการพลิกคำตัดสินของศาลสูงสุดจากคดี “โร วี. เวด” ในปีพ.ศ. 2516 ซึ่งตัดสินให้นางนอร์มา แม็กคอร์วีย์ (ในนาม เจน โร) ที่ต้องการทำแท้ง ชนะคดีนายเฮนรี่ เวด อัยการรัฐเท็กซัส ที่อ้างว่ารัฐเท็กซัสกำหนดให้การทำแท้งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ศาลสูงสุดมองว่า บทบัญญัติดังกล่าวของรัฐเท็กซัสนั้นขัดต่อสิทธิที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ จึงถือว่านางแม็กคอร์วีย์มีสิทธิเต็มที่ตามตามรัฐธรรมนูญในการทำแท้ง
การตัดสินที่เกิดขึ้นล่าสุดนั้นส่งผลให้สิทธิการทำแท้งถูกส่งกลับไปให้มลรัฐนั้นๆ เป็นผู้กำหนดได้เอง โดยศาลสูงสุดสหรัฐฯ มีมติ 6 ต่อ 3 มองว่า “รัฐธรรมนูญมิได้มีบทบัญญัติข้อใดที่รับรองให้การทำแท้งเป็นสิทธิพื้นฐานของพลเมือง” สร้างความตึงเครียดให้กับหนึ่งในประเด็นถกเถียงที่แหลมคมที่สุดในสังคมชาวอเมริกัน
ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวประณามคำตัดสินของศาลสูงสุดว่าเป็น “ความผิดพลาดที่เป็นโศกนาฏกรรม” มีรากฐานมาจากแนวคิดสุดโต่ง ซึ่งอาจกลายเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานอื่นๆ อาทิ สิทธิการสมรสของบุคคลเพศเดียวกัน ถือเป็นวันที่น่าเศร้าสลดอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์กระบวนการศาลของสหรัฐฯ และประเทศชาติ