นาซ่าเผยภาพเอกภพยุคแรก กล้องเจมส์เว็บบ์เล็งส่องจุดกำเนิดจักรวาล

นาซ่าเผยภาพเอกภพยุคแรก กล้องเจมส์เว็บบ์เล็งส่องจุดกำเนิดจักรวาล

นาซ่าเผยภาพเอกภพยุคแรก – วันที่ 12 ก.ค. บีบีซีรายงานว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือนาซ่า เผยภาพถ่ายสีภาพแรกจากกล้องโทรทัศน์เจมส์ เว็บบ์ ยานถ่ายภาพรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งส่งขึ้นสู่อวกาศเมื่อปลายปี 2564

ภาพถ่ายดังกล่าวนอกจากเป็นผลงานชิ้นแรกของกล้องโทรทัศน์รุ่นใหม่ยังเป็นภาพถ่ายด้วยรังสีใต้แดง (อินฟราเรด) ในห้วงลึกที่สุดของอวกาศที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่นาซ่าเคยถ่ายมา เผยให้เห็นกาแล็กซีและกลุ่มดาวที่เคยส่องประกายในยุคตอนต้นของเอกภพเมื่อ 1.3 หมื่นล้านปีก่อน

NASA

ภาพข้างต้นยังถูกนำไปให้กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯดู และนาซ่าจะทยอยเปิดเผยภาพถ่ายอื่นๆ จากกล้องเจมส์ เว็บบ์ ให้ประชาคมโลกได้ชมกันผ่านไลฟ์สตรีมในวันนี้ด้วย

ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวชื่นชมความสำเร็จของทีมงานเจมส์ เว็บบ์ ว่าภาพถ่ายที่ได้รับการเปิดเผยครั้งนี้จะเป็นสิ่งสะท้อนว่าสหรัฐฯมีขีดความสามารถในการทำเรื่องใหญ่ๆได้ และย้ำเตือนชาวอเมริกัน รวมถึงลูกหลานของชาติว่าไม่มีสิ่งใดเกินความสามารถของมนุษย์

BBC

“เราได้เห็นความเป็นไปได้ต่างๆ ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน และเราได้เดินทางไปในสถานที่ที่ไม่เคยมีใครเคยไปมาก่อน” ไบเดน ระบุ

ยานกล้องโทรทัศน์ เจมส์ เว็บบ์ (James Webb Space Telescope – JWST) ใช้งบประมาณการสร้างถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 3.6 แสนล้านบาท ถูกปล่อยขึ้นสู่วงโคจรโลกเมื่อ 25 ธ.ค. 2564 เป็นยานที่จะมารับช่วงต่อจากกล้องโทรทัศน์ ฮับเบิล สเปซ เทเลสโกป (HST) ซึ่งนาซ่าใช้งานมานานกว่า 32 ปีแล้ว

ภารกิจของ JWST จะเป็นเสมือนกล้องสำรวจห้วงลึกของอวกาศให้กับมนุษยชาติ โดยทางนาซ่ามีเป้าหมายสำคัญที่สุด 2 ประการ ได้แก่ การถ่ายภาพกลุ่มดาวกลุ่มแรกที่เปล่งแสงออกมาหลังการถือกำเนิดขึ้นของจักรวาลเมื่อราว 13,800 ล้านปีก่อน (บิ๊กแบง)

อีกเป้าหมายหนึ่งเป็นการสำรวจหาโลกใบใหม่เพื่อเปิดความเป็นไปได้ถึงการส่งมนุษย์ไปยึดครองและสร้างอารยธรรมบนดาวดวงอื่น โดยภาพแรกที่นาซ่าเพิ่งเผยโฉมให้ประชาคมโลกนั้นเป็นการแสดงสมรรถนะของกล้องโทรทัศน์เจมส์ เว็บบ์ ในการบรรลุเป้าหมายประการแรกข้างต้น

นาซ่า อธิบายถึงภาพถ่ายดังกล่าวว่า เป็นกลุ่มกาแล็กซีในกลุ่มดาวโวลัน (กลุ่มดาวปลาบิน) อยู่ในซีกฟ้าใต้ หรือมีชื่อรหัสว่า SMACS 0723 มีระยะห่างจากดาวเคราะห์โลกไม่มากนัก แค่เพียงราว 4.6 พันล้านปีแสง

ทว่า กลุ่มดาวปลาบินที่ถ่ายมานั้นมีความหนาแน่นสูง ทำให้นาซ่าสามารถใช้แสงและปรากฏการณ์คลื่นแรงโน้มถ่วง (เป็นเสมือนเลนส์นูน) ในการขยายภาพมองเข้าสู่ห้วงลึกของอวกาศได้อย่างมหาศาล

อุปกรณ์ถ่ายภาพหลักของยาน เจมส์ เว็บบ์ เป็นกระจกทองคำเส้นผ่านศูนย์กลาง 6.5 เมตร และอุปกรณ์ตรวจวัดแสงอินฟราเรดที่มีความไวสูงมากทำให้สามารถดักเก็บแสงที่มาจากกลุ่มกาแล็กซีอายุเพียง 600 ล้านปี หลังการเปิดปรากฏการณ์บิ๊กแบงเมื่อราว 13,800 ล้านปีก่อนได้

ที่สำคัญกว่านั้น คือ คุณภาพของภาพถ่ายที่ได้มีความคมชัดสูงและและไม่บิดเบี้ยวทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ รวมถึงขีดเความสามารถของกล้องโทรทัศน์ เจมส์ เว็บบ์ สามารถส่องทะลุบิ๊กแบงไปได้จนถึงช่วงเวลาก่อนกำเนิดของจักรวาล

NASA

ภาพอดีตของจักรวาลกว่า 13,000 ล้านปีก่อนที่นำมาเปิดเผยนั้นจึงถือเป็นแค่การชิมลางเท่านั้นหากเทียบสิ่งที่ทางนาซ่าจะเดินหน้าภารกิจต่อไปในอนาคต

นายบิล เนลสัน ผู้อำนวยการนาซ่า กล่าวว่า แสงเดินทางด้วยอัตราเร็ว 3 แสนกิโลเมตรต่อวินาทีในห้วงอวกาศที่เวิ้งว้าง แสงที่เห็นจากภาพถ่ายซึ่งนาซ่านำมาให้ชมนั้นเดินทางมานานกว่า 1.3 หมื่นล้านปี

“และที่สำคัญคือเราจะส่องย้อนไปไกลกว่านั้นครับ นี่เป็นเพียงแค่ภาพแรก ต่อไปเราจะย้อนไปที่ 1.35 หมื่นล้านปี เพราะเรารู้แน่ชัดว่าจักรวาลถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 1.38 หมื่นล้านปีก่อน เรียกได้ว่าขั้นต่อไป คือ จะถึงจุดกำเนิดของเอกภพแล้วล่ะครับ” เนลสัน ระบุ

ความแตกต่างของสมรรถนะระหว่าง JWST กับกล้อง HST ที่นาซ่าใช้งานมายาวนานกว่า 32 ปีนั้นสะท้อนอย่างชัดเจนถึงความสามารถในการถ่ายภาพระดับเดียวกันนี้ โดย HST อาจต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์ ขณะที่ JWST ใช้เวลาเพียง 12 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น

โครงการ JWST เป็นความร่วมมือกันระหว่างนาซ่า องค์การอวกาศยุโรปหรืออีเอสเอ และองค์การอวกาศแคนาดาหรือซีเอสเอ โดยเฉพาะเป้าหมายที่สอง คือ การสำรวจหาดาวเคราะห์ดวงอื่นนอกระบบสุริยะจักรวาลที่อาจมีสภาพแวดล้อมเหมือนหรือใกล้เคียงกับดาวเคราะห์โลก

หนึ่งในดาวเคราะห์ข้างต้นเป็น WASP-96 b ที่อยู่ห่างจากโลกไปราว 1 พันปีแสง โดยกล้องโทรทัศน์ เจมส์ เว็บบ์ ยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์สภาพทางเคมีของชั้นบรรยากาศ

แม้ WASP-96 b จะเป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่แต่มีวงโคจรอยู่ใกล้กับดาวฤกษ์มากเกินไปทำให้ไม่สามารถรองรับสิ่งมีชีวิตแบบบนโลกมนุษย์ได้ แต่นาซ่าหวังว่าในที่สุดแล้วกล้องเจมส์ เว็บบ์ จะสามารถค้นพบดาวที่มีชั้นบรรยากาศคล้ายโลกได้ ซึ่งจะนำไปสู่การค้นพบสิ่งมีชีวิตต่างดาว

นักวิทยาศาสตร์ของนาซ่ามีความมั่นใจในสมรรถนะของกล้องโทรทัศน์เจมส์ เว็บบ์ ว่าจะสามารถบรรลุภารกิจและเป้าหมายที่วางไว้ได้

ดร.แอมเบอร์ สตรอจน์ รองหัวหน้าโครงการ JWST กล่าวว่า ภาพแรกที่กล้องโทรทัศน์ถ่ายออกมาได้นั้นสวยงามยอดเยี่ยมมาก

“ทุกภาพมีความยอดเยี่ยมอยู่ในตัวของมันเองค่ะ แต่รายละเอียดในภาพที่เราจะสามารถนำมาวิเคราะห์และนำไปต่อยอดองค์ความรู้ของเราได้นั้นทำให้ดิฉันตื่นเต้นมากๆ” ดร.สตรอจน์ระบุ

ดร.เอริก สมิธ นักวิทยาศาสตร์ผู้ดูแลด้านโปรแกรมของ JWST ระบุว่า ประชาคมโลกน่าจะได้ทราบเรื่องความน่าประทับใจของยานลำนี้แล้วทั้งในแง่ของการก่อสร้าง การออกแบบ เป้าหมายภารกิจ ทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของกล้อง เจมส์ เว็บบ์

“การออกแบบและรูปแบบการทำงานของ ผมคิดว่าน่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้สังคมรู้สึกสนใจและติดตามความเคลื่อนไหวของเรา แค่รูปร่างหน้าตาของมันก็เหมือนยานที่มาจากอนาคตละครับ (หัวเราะ)” ดร.สมิธ กล่าวทิ้งท้าย