วันที่ 18 ต.ค. เว็บไซต์เอ็นพีอาร์ สถานีวิทยุสาธารณะแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา รายงานว่า นายโจนาทาน ซาฮา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเดอรัม สหราชอาณาจักร เขียนคำอุทิศสุดแปลกในหนังสือ “Colonizing Animals หรือสัตว์ที่ยึดครอง” ซึ่งเป็นหนังสือเล่มใหม่ของตนเอง นั่นคือ “แด่เจ้าโทสต์ แมว ผู้ไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรเลย” กลายเป็นไวรัลเรียกยอดไลก์ในทวิตเตอร์กว่า 266,000 ไลก์

ซาฮาระบุว่า เจ้าโทสต์เป็นแมวเสียงดังที่สุดตัวหนึ่งที่เขาเคยเจอมา

นายซาฮายังบอกอีกว่า รู้สึกซาบซึ้งที่จะอุทิศหนังสือเล่มนี้แก่แมว ซึ่งถือว่ามีผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต อีกทั้งนับตั้งแต่เขียนหนังสือเล่มนี้ทำให้ตนรู้สึกขอบคุณว่า สัตว์มีส่วนกำหนดสังคมมนุษย์มากแค่ไหน

“แด่โทสต์ แมวที่ไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรเลย”

แต่น่าเศร้าที่เจ้าโทสต์ แมวเพศเมียกลับดาวแมวแล้วเมื่อต.ค. ปี 2564 เดือนเดียวกับที่หนังสือถูกพิมพ์เผยแพร่ เจ้าโทสต์อยู่กับนายซาฮามาตั้งแต่ปี 2558 เมื่อครอบครัวของพี่สะใภ้ไม่สามารถนำเจ้าโทสต์ไปอยู่ด้วยได้ตอนย้ายบ้าน เหมียวได้ชื่อหลังจากที่ลูกคนสุดท้องของครอบครัวฝันถึงแมวชื่อโทสต์

ในหนังสือ นายซาฮาสำรวจว่า ลัทธิล่าอาณานิคมเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างคนและสัตว์ในประเทศเมียนมาอย่างไร และลัทธิล่าอาณานิคมพึ่งพาสัตว์อย่างแพร่หลายได้อย่างไร พฤติกรรมที่ยังคงเป็นมรดกสืบทอดจนถึงปัจจุบัน

การใส่ใจต่อสัตว์เสมอที่ผมคิดคือ การเริ่มทำงานที่จะไปแก้ไขความเสียหายที่จักรวรรษอังกฤษทำ และไม่มีทางที่จะทำให้เจ้าโทสต์เป็นแรงงานที่สร้างประสิทธิผลไม่ว่าในรูปแบบไหน ได้เหมือนกับที่ช้างและวัว ควายที่มีส่วนช่วยในหลายอุตสาหกรรมในประเทศเมียนมา แต่ผมสมมติเอาว่า มันมีอิทธิพลในทางตรงกันข้าม เนื่องจากการได้ใช้ชีวิตกับเจ้าโทสต์ คือ เป็นไปไม่ได้ที่จะมองไม่เห็นความจริงว่า สัตว์มีวาระและความต้องการของตัวมันเองที่ค่อนข้างห่างจากเรื่องราวของมนุษย์

เจ้าโทสต์อาจไม่ได้มีส่วนช่วยในหนังสือเล่มนี้ แต่นายซาฮาระบุว่า แม้ไม่ช่วย แต่เจ้าเหมียวเข้ามาวุ่นวายตลอดเวลาระหว่างกระบวนการเขียนหนังสือ ทั้งนั่งและเดินข้ามแป้นคีย์บอร์ดแล็ปท็อป ส่งเสียงและเรียกร้องความสนใจ โทสต์มีนิสัยชอบขดตัวบนไหล่สองข้างของนายซาฮา เพื่อให้นายซาฮาเดินแบกไปทั่วบ้าน

แล้วมีผู้แข่งขันคนอื่นๆที่คุณจะเขียนถึงในคำอุทิศในหนังสือเล่มนี้ไหม แต่พ่ายแพ้เจ้าโทสต์

ผมเกรงว่า สิ่งนี้ทำให้ผมดูแย่ แต่ผมเดาว่า เป็นลูกสาวสองคนของผม อย่างไรก็ตาม พวกเธอเอ็นดูเจ้าโทสต์ และ “แคท-Cat” เป็นคำแรกที่ลูกสาวคนโตพูดได้เป็นคำแรก ผมคิดว่า ลูกๆเห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้

…………

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน