เนเธอร์แลนด์พิพากษาคดียิงเที่ยวบินMH17 4จำเลยรัสเซีย-ยูเครน

เนเธอร์แลนด์พิพากษาคดียิงเที่ยวบินMH17 – วันที่ 17 พ.ย. เอพีรายงานว่า ศาลนครเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ พิพากษาโทษจำเลย 4 คน ที่อยู่เบื้องหลังเหตุเครื่องบินโดยสารเที่ยวบินที่ MH17 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ ถูกขีปนาวุธยิงตกเหนือน่านฟ้ายูเครนเมื่อปี 2557

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 17 ก.ค. 2557 เครื่องโบอิ้ง 777 เที่ยวบินที่ MH17 ออกจากท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮลของเนเธอร์แลนด์มุ่งหน้ากรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย ถูกขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานยิงตกทางตะวันออกของยูเครน คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือ 298 ราย

รายงานระบุว่า ในตอนนั้นโศกนาฏกรรมข้างต้นเกิดขึ้นท่ามกลางการรบพุ่งกันระหว่างกองทัพยูเครนกับกองกำลังติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียซึ่งยึดครองพื้นที่ทางซีกตะวันออกของยูเครน

เนเธอร์แลนด์พิพากษาคดียิงเที่ยวบินMH17

AP

คณะผู้พิพากษาใช้สถานที่ตัดสินคดีเป็นท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล ซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายที่บรรดาเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายออกเดินทาง โดยมีบรรดาครอบครัวผู้สูญเสียจากทั่วโลกเดินทางมาร่วมรับฟังคำตัดสิน แต่จำเลยทั้ง 4 คน ไม่ได้เดินทางมา มีเพียงทนายผู้แทนของ 1 ในจำเลย

การตัดสินโทษยังเกิดขึ้นท่ามกลางภาวะสงครามในประเทศยูเครนหลังรัสเซียตัดสินใจส่งกองทัพเข้ารุกรานเมื่อ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ทำให้การพิพากษาคดีในวันนี้เป็นที่คาดว่า จำเลยทั้ง 4 คน หากพบว่ามีความผิดจะไม่มีวันได้รับโทษตามคำพิพากษาของศาลเนเธอร์แลนด์

อัยการผู้รับผิดชอบคดี กล่าวว่า ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานถูกปล่อยมาจากองพันต่อต้านอากาศยานที่ 53 ในสังกัดกองทัพสหพันธรัฐรัสเซีย มีฐานปฏิบัติการอยู่ที่แคว้นเคิร์ซก์ โดยพาหนะที่ใช้นั้นถูกนำไปเก็บไว้ที่ฐานข้างต้น

เนเธอร์แลนด์พิพากษาคดียิงเที่ยวบินMH17

AP

จำเลยทั้ง 4 คน ไม่ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลงมือ แต่อัยการระบุว่าเป็นบุคคลที่มีส่วนร่วมนำเครื่องปล่อยขีปนาวุธดังกล่าวไปไว้ในตำแหน่งที่ขีปนาวุธถูกปล่อยขึ้นไปใส่เครื่องบินลำดังกล่าวและคร่าชีวิตผู้เคราะห์ร้ายทั้งหมดยกลำ

จำเลยทั้ง 4 คน ได้แก่ นายอิกอร์ เกอร์คิน อายุ 51 ปี อดีตทหารยศนายพันในสังกัดหน่วยข่าวกรองรัสเซียหรือเอฟเอสเบ ตอนเกิดเหตุมีตำแหน่งเป็นผู้รับผิดชอบด้านกลาโหมและผู้บัญชาการสูงสุดกองกำลังฝักใฝ่รัสเซียในแคว้นโดเนตสก์ของยูเครน ปัจจุบัน นายเกอร์คินยังมีส่วนร่วมในสงครามรุกรานยูเครนของรัสเซียด้วย

นายเซอร์เกย์ ดูบินสกีย์ นายโอเลก ปูลาทอฟ และนายลีโอนิด เคอร์เชนโก ทั้งหมดเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายเกอร์คิน ขณะที่นายเคอร์เชนโกนั้นแม้เป็นบุคคลที่มีสัญชาติยูเครน แต่เป็นผู้บังคับหน่วยของกองกำลังฝักใฝ่รัสเซีย

นายปูลาทอฟ เป็นจำเลยเพียงคนเดียวที่ส่งทนายผู้แทนเข้าร่วมรับฟังคำตัดสินที่เกิดขึ้น โดยทนายของนายปูลาทอฟโต้แย้งว่า อัยการทำคดีด้วยการมุ่งเอาผิดคนเพียงกลุ่มเดียว เพราะใช้หลักฐานและผลสอบสวนจากคณะสืบสวนนานาชาติเท่านั้นและไม่เปิดใจต่อความเป็นไปได้อื่น

ทีมทนายของนายปูลาทอฟ ยังโต้แย้งการดำเนินคดีนั้นเป็นไปอย่างไม่เที่ยงธรรมและหลักฐานที่ฝ่ายอัยการนำมาเสนอนั้นอ่อนทำให้นายปูลาทอฟไม่ได้รับความเป็นธรรม

นายปูลาทอฟยังส่งคลิปวิดีโอผ่านทนายมาเปิดในศาลด้วย โดยยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง และระบุว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การนำข้อเท็จจริงมาตีแผ่ให้โลกได้รับทราบ และวิงวอนต่อศาลว่าอย่าได้นำโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นไปกล่าวโทษกับรัสเซียทั้งประเทศ

ล่าสุด ศาลเนธอร์แลนด์มีคำสั่งพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต นายเกอร์คินในฐานะผู้อนุญาตให้นำอาวุธรัสเซียมาใช้ นายดูบินสกีย์ เป็นผู้ออกคำสั่งและดูแลการขนย้ายอาวุธไปไว้ที่แคว้นโดเนตสก์ และนายเคอร์เชนโก ชาวยูเครนที่รับคำสั่งจากดูบินสกีย์และใช้อาวุธดังกล่าว

ส่วนนายปูลาทอฟที่ส่งตัวแทนทนายมานั้นเป็นจำเลยเพียงคนเดียว ที่ศาลพบว่าไม่มีความผิด แม้จะทราบถึงการนำอาวุธดังกล่าวมาใช้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน