วันที่ 17 ธ.ค.เอเอฟพีรายงานว่า นายอีลอน มัสก์ เจ้าของและประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอคนใหม่ของบริษัททวิตเตอร์ โซเชียลมีเดียสัญชาติสหรัฐกล่าวว่า ตนจะฟื้นการใช้งานบัญชีทวิตเตอร์ของนักข่าวหลายรายที่ถูกทวิตเตอร์ระงับการใช้บัญชีเมื่อคืนวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนายมัสก์กล่าวหา นักข่าวดังกล่าวกำลังทำให้ครอบครัวของตนตกอยู่ในอันตราย 
การแจ้งยกเลิกการระงับบัญชีเกิดขึ้นหลังจากนายมัสก์สำรวจความคิดเห็นผ่านโพลทวิตเตอร์ โดยสอบถามว่า ตนควรยกเลิกคำสั่งระงับบัญชีนักข่าวเลยในขณะนี้หรือภายใน 1 สัปดาห์ ผลปรากฏว่า เกือบร้อยละ 59 ของผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 3.69 ล้านบัญชีระบุว่า นายมัสก์ควรยกเลิกคำสั่งเดี๋ยวนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังสหประชาชาติหรือยูเอ็นร่วมกับสหภาพยุโรปหรืออียูร่วมประณามการตัดสินใจระงับบัญชีนักข่าวที่รายงานข่าวทวิตเตอร์
น.ส.เมลิสซา เฟลมมิ่ง รองเลขาธิการสหประชาชาติด้านการสื่อสารสากลระบุผ่านทางทวิตเตอร์ว่า ตนเองรู้สึกกังวลใจอย่างยิ่งจากรณีที่นักข่าวหลายคนกำลังถูกระงับการใช้ทวิตเตอร์ตามอำเภอใจ เสรีภาพสื่อไม่ใช่ของเล่น
เมื่อวันศุกร์ที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา น.ส.เวียร่า เปียอัวโรวา รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปขู่จะลงโทษทางเศรษฐกิจหรือแซงก์ชั่นทวิตเตอร์ตามกฎหมายการให้บริการดิจิทัลของยุโรป ซึ่งกำหนดให้ธุรกิจเคารพเสรีภาพและสิทธิขั้นพื้นฐานของสื่อ และว่านายมัสก์ควรตระหนักรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบนี้
ก่อนหน้านี้ นายมัสก์กล่าวหานักข่าวว่าแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของตน และว่า การระงับบัญชีนักข่าวดังกล่าวเป็นความจำเป็น หลังจากรถยนต์คันหนึ่งในนครลอสแอนเจลิสที่ลูกของตนนั่งอยู่ถูก “คนบ้าสะกดรอยตาม”
ทั้งนี้ นักข่าวหลายรายที่ถูกทวิตเตอร์ระงับการใช้บัญชี รวมถึงนิวยอร์กไทม์ ซีเอ็นเอ็น และวอชิงตันโพสต์ ล้วนเป็นสื่อใหญ่ของสหรัฐ …………
