รถน้ำมันพลิกคว่ำ-ไฟลุกท่วม “อุโมงค์ซาลัง” สังเวยพุ่ง 20 ศพ-เจ็บกว่า 30 คน
รถน้ำมันพลิกคว่ำ-ไฟลุกท่วม – วันที่ 19 ธ.ค. บีบีซี และเอเอฟพี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์สะเทือนขวัญใน อัฟกานิสถาน หลังเกิดเหตุรถบรรทุกน้ำมันพลิกคว่ำและไฟไหม้ใน “อุโมงค์ซาลัง” อุโมงค์ความยาว 2.6 กิโลเมตร เชื่อมเส้นทางสายเหนือเข้าสู่กรุงคาบูล ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา
โดยไฟลุกลามเผาไหม้รถอีกหลายคันที่สัญจรผ่านอุโมงค์ซาลังในช่วงเกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงจึงจะควบคุมเพลิงไว้ได้เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค. เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังเร่งสอบสวนหาสาเหตุ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 19 ราย และกว่า 32 คนได้รับบาดเจ็บ
Doctors collect the bodies of victims in a fuel tanker explosion in the Salang Tunnel through the Hindu Kush mountains, north of Kabul, Afghanistan, Sunday, Dec. 18, 2022. Over a dozen people were killed and injured when a fuel tanker exploded in the tunnel a local official said Sunday. (AP Photo/Shamim Tanha)
ด้าน นายอับดุลเลาะห์ อัฟกัน มัล เจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดปาร์วาน ทางตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่าเหยื่อส่วนใหญ่ถูกไฟคลอกจนยากต่อการระบุอัตลักษณ์ และว่าอาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจำนวนมาก
ทั้งนี้ อุโมงค์ซาลังสร้างขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1960 โดยสหภาพโซเวียต ที่ระดับความสูงราว 3,400 เมตร เป็นเส้นทางหลักผ่านเทือกเขาฮินดูกูช บริเวณรอยต่อระหว่างอัฟกานิสถานและปากีสถาน และมียอดเขาสูงมากกว่าระดับ 7,000 เมตร
เคยเกิดเหตุรุนแรงเมื่อปี 2525 หลังเกิดไฟไหม้ภายในอุโมงค์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 400 ราย แต่หลายฝ่ายเชื่อว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจมากหลายพันราย
Afghan men suffering from burn injury receive treatment at a hospital after getting as an oil tanker caught fire a night before at Salang pass tunnel in Charikar city on December 18, 2022. (Photo by Farid Tanha / AFP)
Advertisement
The entrance to the Salang tunnel pictured in 2010. At least 19 people have been killed and dozens injured in a fire inside a road tunnel in Afghanistan, local officials say. An oil tanker overturned and caught fire in the Salang Tunnel – which links the capital Kabul to the northern provinces – on Saturday evening. AFP
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
