ครูสงสารลูกศิษย์ – สเตรตส์ไทมส์ รายงานกระแสไวรัลหลังจากที่มีคุณครูชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งคุมสอบนักเรียนอยู่กลางแจ้ง เนื่องจากอากาศในห้องเรียนนั้นร้อนจัด
อุณหภูมิที่สูงนี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของนักเรียนอีกหลายคน จนมีการเสนอให้ใช้การเรียนการสอนทางเลือกอื่นแทน ตลอดจนมีหน่วยงานออกมาขอให้รัฐบาลพิจารณาเปลี่ยนกำหนดการเปิดเทอมให้ไม่ตรงกับช่วงฤดูร้อน
นายโจเอล คาซังแคด ครูชาวฟิลิปปินส์ที่โรงเรียนลูทูแคน อินทิเกรชั่น เนชั่นนัลไฮสคูล ในเมืองซาเรียยา ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางใต้ราว 120 กิโลเมตร ตัดสินใจในวันที่อากาศร้อนจัดว่า วิธีการเดียวที่จะเอาชนะความร้อนได้คือหนีจากมัน จึงพานักเรียนของเขาย้ายโต๊ะเก้าอี้ออกไปตั้งในสนามที่มีเงาของอาคารเรียนทอดยาว และจัดชั้นเรียนของเขาที่นั่น
พร้อมโพสต์รูปภาพบนเฟซบุ๊กเป็นภาพขณะนักเรียนกำลังนั่งสอบในสนามกลางแจ้ง โดยเขียนแคปชั่นว่า “หลบร้อน ป้องกันการโกง” ภาพดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสไวรัล เนื่องจากสำนักข่าวในฟิลิปปินส์นำโพสต์ของเขามาเผยแพร่
นายคาซังแคดกล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า “เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาอากาศร้อนมาก ผมกังวลว่าเด็กๆ จะไม่มีสมาธิกับการทำข้อสอบ ผมเลยคิดที่จะให้สอบนอกสถานที่ มันเป็นวิธีการธรรมชาติ ข้างนอกมีทั้งต้นไม้และอากาศบริสุทธิ์” เขากล่าวอีกว่า “นักเรียนกว่า 30 คนของผมอยู่ข้างนอกตั้งแต่ 7 โมงถึง 11 โมง ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะอยู่จุดสูงที่สุดบนท้องฟ้า และไม่มีร่มเงาจากตึกที่คอยบังแดดให้เราอีกต่อไป”
ฟิลิปปินส์ รวมทั้งอีกหลายประเทศในเอเชียกำลังถูกแผดเผาด้วยคลื่นความร้อนที่นักภูมิอากาศวิทยาผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งกล่าวว่าอาจเป็นสภาพอากาศที่เลวร้ายที่สุดที่ทวีปนี้เคยเผชิญหน้า อุณหภูมิในอินเดีย เมียนมา และไทยสูงถึง 45 องศาเซลเซียส
ส่วนที่ฟิลิปปินส์เครื่องวัดอุณหภูมิพุ่งไปอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส นักเรียนมัธยมปลายได้รับผลกระทบดังกล่าวเพราะห้องเรียนกลายสภาพไปเหมือนเตาอบคลื่นความร้อน นักเรียนเกือบ 150 คนในจังหวัดทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา ป่วยเป็นโรคลมแดดหรือฮีตสโตรก หลังเกิดไฟฟ้าดับในโรงเรียน นักเรียน 7 คนเป็นลม และอีก 2 คนต้องหามส่งโรงพยาบาล
เดือนมีนาคมที่ผ่านมานักเรียนกว่า 100 คนถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากเกิดอาการอ่อนเพลียจากความร้อนจากการซ้อมดับเพลิงโดยยืนอยู่ใต้แสงแดดอันแผดเผาในช่วงบ่าย กระทรวงศึกษาธิการกล่าวก่อนหน้านี้ว่า โรงเรียนสามารถยกเลิกชั้นเรียนแบบตัวต่อตัวเพื่อรับมือกับความร้อนในฤดูร้อนได้
นายไมเคิล โพอา โฆษกของกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่าครูใหญ่และผู้อำนวยการโรงเรียนได้รับการเตือนว่าพวกเขามีอำนาจและความรับผิดชอบในการระงับชั้นเรียนและเปลี่ยนไปใช้ทางเลือกการเรียนการสอนแบบอื่นแทน หากอากาศร้อนจัดและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้เรียนและบุคลากร
ทั้งยังกล่าวอีกว่าเราไม่ต้องการให้สุขภาพของนักเรียนได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอากาศที่ร้อนจัดซึ่งเป็นสาเหตุที่เราเน้นย้ำให้ผู้อำนวยการโรงเรียนให้เปลี่ยนไปใช้การเรียนการสอนทางเลือกทันที
นายเรย์มอนด์ บาซิลิโอ เลาธิการทั่วไปของ อัลลิแอนซ์ ออฟ คอนเซินด ทีเชอร์กล่าวผ่านฟิลิปปินส์เดลี อินไควเรอร์ ว่า “รัฐบาลควรพิจารณาเปลี่ยนกลับไปใช้ปฏิทินโรงเรียนแบบเก่าซึ่งเริ่มเรียนในเดือนมิถุนายน เพื่อหลีกเลี่ยงการจัดชั้นเรียนในช่วงเดือนที่ร้อนและแห้งแล้งตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม”
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 รัฐบาลตัดสินใจเลื่อนการเปิดปีการศึกษา 2563-2564 จากเดือนมิถุนายนเป็นเดือนสิงหาคม 2563 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตามปฏิทินการเรียนเดือนสิงหาคม-เดือนเมษายน ยังคงดำเนินต่อไปโดยรองประธานาธิบดีซารา ดูแตร์เต ซึ่งเป็นเลขาธิการด้านการศึกษาสำหรับปีการศึกษา 2565-2566
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: