คดีที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในสังคมไต้หวัน กรณีหนุ่มวัย 18 ปี ทายาทเศรษฐีเพิ่งได้รับมรดก 560 ล้าน ก่อนพบเป็นศพคาที่พัก หลังแต่งงานเพียง 2 ชั่วโมง เผยผู้ต้องสัยเป็นผู้ชาย
เว็บไซต์ เดอะสเตรทส์ไทมส์ รายงานกรณีการเสียชีวิตอย่างน่าฉงนของ “นายไล่” ทายาทเศรษฐีชาวไต้หวันวัย 18 ปีที่เพิ่งได้รับมรดกมูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ไต้หวันหรือราว 563 ล้านบาท จากการเสียชีวิตของพ่อเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ถูกพบเป็นศพที่บริเวณพื้นนอกคอนโดหลังหนึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากจดทะเบียนสมรสกับนายเซี่ย วัย 26 ปี
ตามรายงานระบุว่า นายไล่เป็นลูกชายของมหาเศรษฐี แต่เนื่องจากสุขภาพที่ย่ำแย่ ผู้เป็นพ่อจึงเริ่มโอนย้ายอสังหาริมทรัพย์ 30 แห่งในเมืองไถจง ให้แก่ลูกชายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเพิ่งโอนย้ายเสร็จทั้งหมดในเวลาเพียง 1 เดือน ก่อนเด็กหนุ่มเสียชีวิต
ขณะที่ แม่ของนายไล่ เผยว่า วันที่ 4 พ.ค. ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ นายเซี่ย(ผู้จัดการมรดก) มารับลูกชายของเธอที่บ้านและพากันออกไปโดยอ้างว่าจะไปจัดการมรดก แต่หลังจากนั้นหลายชั่วโมงลูกชายก็ไม่ติดต่อมา จึงพยายามตามหา แต่สุดท้ายก็ได้รับข่าวร้ายจากตำรวจว่าลูกชายของตนเสียชีวิตแล้วเพราะพลัดตกลงมาจากชั้น 10 ของคอนโดมิเนียมหลังหนึ่งในเขตเป่ย์ถุน เมืองไถจง และต่อมาก็ทราบอีกว่าชั้นดังกล่าวเป็นชั้นที่นายเซี่ยอาศัยอยู่
ภาพประกอบ
จากการสืบสวนเพิ่มเติม พบว่า ทั้งสองคนได้เดินทางไปยังสำนักงานเพื่อจดทะเบียนสมรสเพียงแค่ 2 ชั่วโมงก่อนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม แม่ของนายไล่มองว่าเป็นเรื่องผิดปกติอย่างยิ่ง ที่นายเซี่ยคนนี้มาจดทะเบียนสมรสกับลูกชายของเธอ เพราะทั้งคู่เพิ่งเจอกันได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้นก่อนเขาเสียชีวิต และเธอก็เชื่อว่าลูกชายไม่ได้มีรสนิยมรักร่วมเพศ ด้วยเหตุนี้เธอจึงเชื่อว่าลูกชายถูกฆาตกรรมเพราะเงิน และมีการจัดฉากให้ดูเหมือนการฆ่าตัวตาย
หลังชันสูตรพลิกศพของนายไล่ ด้านแพทย์นิติเวช มองว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่ล่ายจะเสียชีวิตจากการตกลงมาจากอาคารชั้น 10 เนื่องจากอาการบาดเจ็บของนายไล่นั้นเบาเกินไป เมื่อเทียบกับการตกจากที่สูง โดยพบว่าศพมีกระดูกแตกที่ศอกขวา และไม่พบเลือดออกในศีรษะกับช่องท้อง ในทางกลับกันทางนิติเวช คาดว่า นายไล่น่าจะเสียชีวิตจากการได้รับพิษมากกว่า โดยมีการอาเจียนออกมาในเวลาไม่นานก่อนเสียชีวิต
นอกจากนี้ ทางสำนักงานอัยการเขตไถจง ชี้ว่ารายงานการชันสูตรยังอยู่ระหว่างรอดำเนินการ แต่พวกเขาก็เคารพในการกระทำของครอบครัวและบุคคลนอกกระบวนการกฎหมาย ซึ่งทางสำนักงาน ย้ำว่าหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงอาชญากรรมต้องกระทำผ่านกระบวนการกฎหมาย พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดอนุมานเรื่องอาชญากรรมเอาเองจากการคาดเดา
Advertisement
ทั้งนี้ ล่าสุด วันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา มีรายงานว่านายเซี่ยกับพ่อของนายเซี่ยถูกควบคุมตัวไปสอบสวนนาน 5 ชั่วโมงก่อนที่เซี่ยจะได้รับการประกันตัวออกไปด้วยวงเงิน 300,000 ดอลลาร์ไต้หวันหรือราว 360,000 บาท ในขณะที่ครอบครัวของนายไล่ได้พยายามเรียกร้องให้มีการฟ้องคดี เพื่อให้เซี่ยถูกควบคุมตัว ไม่ให้หลบหนีไปไหน
