ปักกิ่งร้อนระอุ!สเตรตส์ไทมส์ รายงานวันที่ 23 มิ.ย. ว่า กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของ ประเทศจีน เผชิญหน้ากับ สภาพอากาศร้อนจัด หลังจากสถานีอากาศทางตอนใต้ของกรุงปักกิ่งวัดอุณหภูมิได้ 41.1 องศาเซลเซียส เมื่อเวลา 15.19 น. ของวันที่ 22 มิ.ย.

สูงเกิน 40 องศาเซลเซียสเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ตั้งแต่ปี 2557 ทั้งยังถือเป็นวันที่ร้อนที่สุดในเดือนมิถุนายนของกรุงปักกิ่งนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลอุตุนิยมวิทยาสมัยใหม่ โดยสถิติก่อนหน้านี้อยู่ที่ 40.6 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2504 หรือเมื่อ 62 ปีก่อน

ปักกิ่งร้อนระอุ!

ปักกิ่งร้อนระอุ! – People walk on a street amid an orange alert for heatwave in Beijing, China June 22, 2023. REUTERS/Tingshu Wang

ทั้งนี้ ช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาประชากรเกือบ 22 ล้านคนในกรุงปักกิ่งได้รับประกาศเตือนภัยสภาพอากาศระดับสีส้มที่สูงสุดเป็นระดับสอง นอกจากนี้ยังระบุว่าอุณหภูมิของพื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศอาจสูงถึง 39 องศาเซลเซียส ระหว่างวันที่ 22-24 มิ.ย.

ครอบคลุมกรุงปักกิ่ง นครเทียนจิน มณฑลเหอเป่ย และมณฑลชานตงซึ่งก่อนหน้านี้ประสบกับคลื่นความร้อนซัดกระหน่ำเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

พร้อมแนะนำให้ทางการท้องถิ่นเพิ่มความพยายามในการปกป้องพืชผลที่อาจได้รับความเสียหายจากอากาศร้อนจัด รวมถึงรับรองความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการทำงานและทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงกลางวัน

ปักกิ่งร้อนระอุ!

ปักกิ่งร้อนระอุ! – People stand in the shade amid an orange alert for heatwave, at a shopping area in Beijing, China June 22, 2023. REUTERS/Tingshu Wang

People walk across a street amid a yellow alert for heatwave, in Beijing, China June 21, 2023. The temperature in Beijing soared above 40 deg C on Thursday for the first time since 2014 as the Chinese capital warned of blistering hot weather through the weekend with the return of heatwaves that scorched northern China a week earlier. REUTERS/Tingshu Wang

People shop for fans amid a yellow alert for heatwave, at a store in Beijing, China June 21, 2023. A weather station on the southern outskirts of Beijing recorded 41.1 deg C at 3.19pm, according to the municipal weather bureau, marking the first breach of the 40 deg C threshold since May 29, 2014. REUTERS/Tingshu Wang

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน