ผอ.ซีไอเอเผย สงครามยูเครน บ่อนเซาะอำนาจปูติน รัสเซียทะเลาะกันเอง โอกาสดึงสายลับ

วันที่ 2 ก.ค.บีบีซีรายงานว่า นายวิลเลียม เจ เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองของสหรัฐอเมริกาหรือซีไอเอกล่าววิพากษ์วิจารณ์ผลกระทบต่อรัสเซียในสงครามยูเครนในการบรรยายประจำปีที่งานมูลนิธิดิตช์ลีย์ ฟาวเดชั่น ประเทศอังกฤษว่า สงครามยูเครนกำลังมีผลกระทบบ่อนเซาะทำลายความเป็นผู้นำของนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียและความไม่พอใจของชาวรัสเซียต่อสงครามในยูเครนกำลังสร้างโอกาสใหม่ๆสำหรับซีไอเอที่จะรวบรวมข่าวกรอง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นห่างกัน 1 สัปดาห์หลังจากที่นายเยฟเกนี ปริโกซิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์ก่อกบฏ

นายเบิร์นส์กล่าวว่า ทุกคนถูกดึงดูดให้สนใจเหตุการณ์ที่นายปริโกซินก่อจลาจลติดอาวุธต่อรัฐบาลกลางรัสเซียเมื่อวันเสาร์ที่ 24 มิ.ย. เมื่อกองกำลังแวกเนอร์ยกทัพมุ่งเข้ากรุงมอสโก “การกระทำหลายอย่างของนายปริโกซินเป็นเครื่องเตือนที่ชัดเจนถึงผลกระทบบ่อนเซาะทำลาย ซึ่งสงครามของนายปูตินส่งผลต่อสังคมและระบอบการปกครองของนายปูติน” นายเบิร์นส์กล่าว

และว่า ผลกระทบไม่เพียงจากการกระทำของนายปริโกซินแต่รวมถึงแถลงการณ์ของนายปริโกซินด้วย ซึ่งรวมถึงข้อกล่าวหาของทั้งการชี้แจงเหตุผลและการการดำเนินการรุกรานของรัสเซียจะเกิดขึ้นและมีพัฒนาการไปสักระยะ

ความไม่พอใจต่อสงครามจะค่อยๆลดหรือสร้างความเสียหายต่อภาวะความเป็นผู้นำของรัสเซีย ซึ่งความบาดหมางดังกล่าวจะสร้างโอกาสที่ชั่วอายุคนมีมาสักครึ่งหนึ่งสำหรับซีไอเอในการสรรหาสายลับเพื่อหาข่าวกรอง และว่า “เราจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้เสียไป” “เราเปิดกว้างอย่างมากสำหรับเรื่องนี้” นายเบิร์นส์กล่าวต่อผู้ชมที่กำลังหัวเราะ

เมื่อไม่นานมานี้ ซีไอเอเปิดตัวการรณรงค์ทางโซเชียลมีเดียชุดใหม่เพื่อพยายามที่จะเข้าถึงประชาชนในรัสเซีย รวมถึงวิดีโอที่ถูกโพสต์ลงเทเลแกรม โซเชียลมีเดียที่ชาวรัสเซียนิยมใช้ โดยการรณรงค์แจ้งขั้นตอนการติดต่อกับซีไอเอในเว็บมืดที่ไม่ถูกตรวจสอบ วิดีโอมียอดชม 2.5 ล้านวิวในสัปดาห์แรก

นายเบิร์นส์เน้นย้ำด้วยว่า สหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏของนายเยฟเกนี เหมือนกับที่เจ้าหน้าที่สหรัฐคนอื่นๆกล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ ผู้อำนวยการซีไอเอไม่ได้กล่าวถึงโดยตรงเกี่ยวกับรายงานข่าวจากวอชิงตันโพตส์ที่ระบุว่า ตนเองไปเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครนอย่างลับๆก่อนการก่อกบฏของนายเยฟเกนี








Advertisement

นายเบิร์นส์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำรัสเซียในปี 2548-2551 กล่าวว่า ตนเองใช้เวลาอย่างมากในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเพื่อเข้าใจประธานาธิบดีปูติน แต่เสริมว่า สิ่งหนึ่งที่ตนได้เรียนรู้คือ มักเป็นข้อผิดพลาดเสมอที่จะประเมินการครอบงำการควบคุมยูเครนของนายปูตินต่ำเกินไป

เนื่องจากนายปูตินเชื่อมาเสมอว่า หากปราศจากยูเครน รัสเซียจะไม่สามารถเป็นมหาอำนาจได้และนายปูตินเองไม่สามารถเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ได้ ซึ่งการครอบงำที่น่าเศร้าและโหดร้ายนำความน่าอับอายมาสู่รัสเซียและเผยถึงความอ่อนแอของรัสเซีย

สงครามของปูตินเป็นความล้มเหลวเชิงยุทธศาสตร์เรียบร้อยแล้ว ความอ่อนแอทางทหารถูกเปิดเผย เศรษฐกิจเสียหายร้ายแรงในอีกไม่กี่ปี ตลอดจนในอนาคตรัสเซียจะกลายเป็นหุ้นส่วนที่อ่อนอาวุโสกว่าและอาณานิคมทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งถูกกำหนดขึ้นจากความผิดพลาดของนายปูติน

…………..

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

แหล่งข่าวเผย “นายพลรัสเซีย” คุมสมรภูมิยูเครน-ถูกจับฐานสมคบ “บิ๊กแวกเนอร์”

สยบถูกวิจารณ์อ่อนแอ! ปูตินลั่น นำหัวหน้าแวกเนอร์ สู่กระบวนการยุติธรรม

เบลารุสคุยบิ๊กแวกเนอร์ “ตกลง” หยุดเคลื่อนทัพ มอสโกยังผวา-ขุดทำลายถนน (คลิป)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน