สิงคโปร์ไม่สนคำค้าน – เอเอฟพี รายงานวันที่ 28 ก.ค. ว่า สำนักงานปราบปรามยาเสพติดส่วนกลางของสิงคโปร์ออกแถลงการณ์ว่า “โทษประหารชีวิตที่บังคับใช้กับน.ส.ส่าหรีเทวี บินเต จัมมานิ มีขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค.2566”
หลังจากศาลพิพากษาโทษสูงสุดเมื่อปี 2561 ตามความผิดฐานลักลอบค้ายาเสพติด จากกรณีมีเฮโรอีนหนัก 30.72 กรัมในครอบครอง ส่งผลให้น.ส.จัมมานิกลายเป็นนักโทษหญิงคนแรกของสิงคโปร์ที่ถูกแขวนคอในรอบเกือบ 20 ปี เกิดขึ้นต่อจากนักโทษหญิงคนก่อนที่โดนประหารในข้อหาค้ายาเสพติดเมื่อปี 2547
และน.ส.จัมมานิยังเป็นนักโทษรายที่ 15 ที่ถูกแขวนคอนับตั้งแต่รัฐบาลนำโทษประหารชีวิตกลับมาบังคับใช้ภายหลังยกเลิกไป 2 ปีในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด
ก่อนหน้านี้หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศเรียกร้องให้สิงคโปร์ยุติการประหารชีวิต นายเชียรา ซันจิอร์จิโอ ผู้เชี่ยวชาญด้านโทษประหารขององค์กรแอมเนสตี อินเตอร์เนชันแนล ระบุว่าไม่มีเหตุอันควรที่สิงคโปร์จะประหารชีวิตอย่างโหดร้ายเพื่อควบคุมยาเสพติด เพราะไม่มีหลักฐานว่าโทษประหารมีผลประจักษ์ว่าส่งผลกระทบต่อการเสพหรือการที่ยาเสพติดยังคงมีอยู่
อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์ยังยืนกรานดำเนินโทษประหารและว่าบทลงโทษนี้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการการยับยั้งอาชญากรรม
โดยโทษประหารชีวิตจะบังคับใช้กับความผิดทางอาญา ครอบคลุมถึงคดีฆาตกรรม การลักพาตัว และค้ายาเสพติดซึ่งการลักลอบค้ากัญชาเกิน 500 กรัมและเฮโรอีนเกิน 15 กรัมจะถูกลงโทษประหารชีวิต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: