จับม็อบเกาหลีใต้ – วันที่ 24 ส.ค. เอเอฟพี รายงานว่า ตำรวจเกาหลีใต้จับกุมกลุ่มผู้ประท้วงมากกว่า 10 คนที่พยายามบุกเข้าไปในสถานทูตญี่ปุ่นประจำกรุงโซล
เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อกรณีที่ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะไดอิจิ ในจังหวัดฟูกุชิมะ ซึ่งเคยประสบหายนะจากคลื่นสึนามิและแผ่นดินไหว จนเป็นเหตุให้เกิดการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีเมื่อปี 2554 เดินหน้าปล่อยน้ำเสียที่ปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่บำบัดแล้วลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.
แม้ทางการญี่ปุ่นจะยืนยันว่าการทยอยปล่อยน้ำเสียที่บำบัดแล้วจะไม่กระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล แต่หลายประเทศ โดยเฉพาะจีนและเกาหลีใต้แสดงความกังวลอย่างหนัก จีนประณามว่าญี่ปุ่นใช้มหาสมุทรที่เป็นทรัพยากรส่วนรวมเป็นบ่อน้ำทิ้งส่วนตัว และระงับการนำเข้าอาหารทะเลทั้งหมดจากญี่ปุ่นเช่นเดียวกับฮ่องกง
ด้านบีบีซีรายงานว่าตั้งแต่เกิดภัยพิบัติเมื่อปี 2544 บริษัท เทปโก ผู้บริหารจัดการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะไดอิจิ ดำเนินการปั๊มน้ำเข้าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อหล่อเย็นแท่งเชื้อเพลิงที่เกิดการหลอมละลาย และเพื่อรักษาบ่อเก็บเชื้อเพลิงใช้แล้ว ส่งผลให้มีน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่บรรจุอยู่ในถังเก็บน้ำขนาดมหึมา
จนถึงปัจุบันถังเก็บน้ำขนาดมหึมามากกว่า 1,000 ถังถูกบรรจุจนเต็มหมดแล้ว จึงต้องทยอยปล่อยน้ำเหล่านี้ลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกในช่วง 30 ปีนับจากนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. ตามปกติการปล่อยน้ำปนเปื้อนรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงมหาสมุทรเป็นสิ่งที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทำเป็นประจำ แต่เพราะโรงไฟฟ้าฟูกุชิมะเกิดวิกฤตทางนิวเคลียร์และทำให้กัมมันตรังสีที่ปนเปื้อนไม่สามารถกำจัดออกไปได้ทั้งหมด
การบำบัดขั้นสูงที่บริษัทเทปโกใช้ในกระบวนการบำบัดน้ำเสียไม่สามารถกำจัดสารทริเทียมและคาร์บอน-14 ออกไปได้หมด สารทั้งสองชนิดนี้เป็นสารกัมมันตรังสีในรูปแบบของไฮโดรเจนและคาร์บอนที่คัดแยกออกจากน้ำได้ยากมาก
แม้สารเหล่านี้จะมีอยู่ในธรรมชาติ น้ำ และในร่างกายมนุษย์ด้วย เพราะเกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศโลกก่อนเข้ามาสู่วงจรของน้ำและเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ สารทริเทียมและคาร์บอน-14 ปล่อยกัมมันตรังสีออกมาในระดับต่ำ แต่หากบริโภคทริเทียมเข้าไปมากพอก็อาจเป็นอันตรายได้
ศาสตราจารย์จิม สมิธ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม กล่าวว่าน้ำที่โรงไฟฟ้าฟูกุชิมะจะปล่อยมีทริเทียมอยู่ที่ 1,500 เบ็กเคอเรลต่อลิตร ส่วนมาตรฐานน้ำดื่มขององค์การอนามัยโลก (WHO) สำหรับทริเทียมคือ 10,000 เบ็กเคอเรลต่อลิตร ดังนั้น ตามทฤษฎีแล้วถ้าน้ำไม่เต็มไปด้วยเกลือ น้ำบำบัดจากฟูกุชิมะก็สามารถดื่มกินได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: