ไม่เคยใยดีมาตลอด 54 ปี แม่ทิ้งลูกชายไปตั้งแต่ 2 ขวบ พอรู้ลูกตาย กลับมาอ้างสิทธิ์ฮุบเอาเงินประกันกว่า 6 ล้านบาท โดยไม่ยอมแบ่งเงินให้น้องสาวที่สู้ชีวิตด้วยกันมา
เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า กรณีล่าสุดเกิดขึ้นในเกาหลีใต้ ศาลปูซานได้ยุติข้อพิพาททางกฎหมายระหว่างแม่ของลูกชายกะลาสีเรือที่เสียชีวิตและลูกสาว ที่เกี่ยวเนื่องจากมรดก โดยผู้เป็นแม่ปฏิเสธคำสั่งศาล ที่จะมอบเงินประกันของลูกชายกว่าร้อยละ 42 ของทั้งหมดให้กับลูกสาว ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้ตาย แม้ว่าเธอจะทิ้งลูกทั้ง 2 คนไว้ตั้งแต่อายุยังน้อย และขาดการติดต่อมาเป็นเวลา 54 ปีก็ตาม
ภาพประกอบ
กรณีดังกล่าวได้จุดชนวนความไม่พอใจไปทั่วประเทศเกาหลีใต้ และเกิดเสียงวิจารณ์การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย เพื่อกีดกันพ่อแม่ที่ทอดทิ้งลูกๆ ของตนจากการรับมรดก หรือที่รู้จักกันในชื่อ “กฎหมายคูฮารา” โดยชื่อดังกล่าวตั้งชื่อตามนักร้องเคป็อปชื่อดังที่เสียชีวิตลง ซึ่งแม่ของเธอพยายามเรียกร้องเงินของเธอ หลังจากที่เธอเสียชีวิต แม้ว่าจะไม่ได้เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ
อย่างไรก็ตาม แม่ของผู้เสียชีวิตชื่อว่า นางคิม จองอัน ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เธอเลี้ยงดูเขาตั้งแต่เขายังเด็ก เขาไม่ได้เลี้ยงตัวเอง พร้อมทั้งยืนกรานว่า เธอควรจะได้เงินประกันนั้น เธอทำเพื่อลูกๆ ของเธอมามากพอแล้ว แม้ว่าลูกชายจะได้เห็นเธอเป็นครั้งสุดท้ายเมื่ออายุ 2 ขวบก็ตาม
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้าที่นายคิม เสียชีวิต เขาอยู่ในสถานะสมรส แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากกฎหมาย ทำให้แม่ของเขาจึงได้รับการติดต่อจากบริษัทประกันภัย ซึ่งในตอนแรกก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอมีลูกชายชื่อนั้น
ภาพประกอบ
แม่และลูกได้เจอกันอีกครั้งในรอบ 54 ปี ผ่านทางเอกสารบนกระดาษ โดยเธอได้เคลมเงินประกันชีวิตของลูกชายมูลค่า 237.7 ล้านวอน หรือราว 6.3 ล้านบาท
ขณะที่ ทางศาลเมืองปูซาน ได้แนะนำให้เธอแบ่งเงิน 100 ล้านวอนหรือราว 2.7 ล้านบาท ให้กับลูกสาว หรืออีกสถานะหนึ่งคือน้องสาวของผู้ตาย ที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันมา 2 คนพี่น้อง หลังจากถูกแม่ทอดทิ้ง แต่นางคิม ผู้เป็นแม่ปฏิเสธที่จะแบ่งเงินดังกล่าวให้กับลูกสาวของเธอ
ภาพประกอบ
ทางด้านน้องสาวผู้ตาย กล่าวในการประชุมว่า “ตอนที่พี่ชายของเราเสียชีวิตในปี 2542 แม่ไม่ปรากฏให้เห็นเลย แม้ว่าตำรวจจะติดต่อเธอก็ตาม และเธอจะหันมาสนใจไหมถ้าพี่ชายของฉันไม่มีเงิน”
ทั้งนี้ กฎหมายการรับมรดกของเกาหลีใต้อนุญาตให้พ่อแม่ที่ไม่ได้อยู่สามารถเรียกร้องเงินของบุตรหลานได้ โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงว่า พวกเขามีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเท่านั้น โดยที่ผ่านมาการแก้ไขกฎหมายนี้เสนอครั้งแรกในปี 2563 และขณะนี้สถานะยังคงค้างอยู่ในการพิจารณาของรัฐสภา
