รวยน้ำใจ! ชายพิการ-เก็บขวดขาย บริจาคเงินช่วยเหลือนักเรียนไปแล้วกว่า 5 ล้านบาท เผยทำลงไปด้วยใจ ไม่ได้หวังชื่อเสียงใด ๆ
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โลกโซเชียลจีนได้แบ่งปันเรื่องราวอันอบอุ่นหัวใจของชายคนหนึ่ง ถึงแม้ร่างกายของเขาจะพิการและไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง แต่เขานั้นร่ำรวยน้ำใจสุด ๆ
ชายผู้มีจิตใจยิ่งใหญ่รายนี้มีชื่อว่า “หูเล่ย” เขาได้บริจาคเงินช่วยเหลือนักเรียนเป็นเวลายาวนานกว่า 15 ปี รวมเป็นเงินกว่า 1 ล้านหยวน หรือราว ๆ 5 ล้านบาท รวมไปถึงการซื้อกระเป๋านักเรียนกว่า 20,000 ใบ ซึ่งเงินเหล่านี้เป็นรายได้จากการเก็บขวดพลาสติกและขายงานฝีมือตามท้องถนน
โดยนายหูเล่ยมักพูดคุยกับเด็กนักเรียนและถามไถ่เด็ก ๆ ด้วยความเป็นห่วงเสมอ หากเด็ก ๆ มีความลำบากใจใด ๆ เขาจะพยายามหาทางช่วย และเมื่อเด็ก ๆ ได้เติบโต ขอให้จดจำบุญคุณของพ่อแม่ คุณครู ท่านผู้นำ และความรักที่มีต่อประเทศ แต่ไม่ต้องจดจำเขาก็ได้
ตามรายงาน นายหูเล่ยป่วยเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่ยังเด็ก จึงต้องใช้เข่าในการเดิน เขาเติบโตมาจากการเลี้ยงดูของปู่ย่า เนื่องจากพ่อเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะไปพบแพทย์ ส่วนแม่ของเขาก็แต่งงานใหม่หลังจากเป็นม่าย
ชีวิตของนายหูเล่ยเริ่มมืดมน เมื่อปู่ของเขาได้จากไปขณะที่เขาอายุเพียง 15 ขวบ ส่วนย่านั้นท่านชรามากแล้วไม่สามารถหาเงินเลี้ยงดูเขาได้ เขาจึงถูกส่งตัวไปยังสถานสงเคราะห์
แต่ทั้งนี้นายหูเล่ยมองว่า เขาไม่ยังไม่อยากเป็นภาระของสังคมตั้งแต่อายุยังน้อย จึงเริ่มมองหาช่องทางช่วยเหลือตนเอง ด้วยการเดินเก็บขวดพลาสติกขาย หลังจากนั้นเขาก็ยึดเป็นอาชีพ สามารถทำเงินได้หลักร้อย และเริ่มเป็นที่รู้จักของผู้คนในละแวกนั้น เพราะความพยายามและความสู้ชีวิตของเขา
เนื่องจากได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นบ่อยครั้ง นายหูเล่ยจึงอยากตอบแทนสังคมด้วยการทำความดี เขาบริจาคเงินช่วยเหลือองค์กรการกุศลมากมาย อาทิ ในวันที่ 14 เมษายน 2010 ได้เกิดแผ่นดินไหวในมณฑลชิงไห่ เขาได้บริจาคเงิน 100 หยวน (ราว 500 บาท) ทันที แม้จะเป็นเงินจำนวนไม่มาก แต่สำหรับเขา มันแลกมาด้วยความพยายามในการงมถังขยะเพื่อหาขวดพลาสติกมานับไม่ถ้วน
“ชีวิตผมลำบากมาก แต่ผมก็ทนไม่ได้ที่เห็นคนอื่นลำบากเหมือนผม มีหลายคนบอกให้ผมไลฟ์สด แต่ผมไม่ต้องการ ผมไม่อยากเป็นคนดังบนอินเตอร์เน็ต พ่อของผมท่านไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว และผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะจากไปเมื่อไหร่ ผมไม่อยากเป็นคนดังจริง ๆ นะ สิ่งเดียวที่ผมอยากทำคือการปิดทองหลังพระ และหวังว่านี่จะเป็นการปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความกตัญญูให้กับเด็ก ๆ ที่จะเติบโตมาตอบแทนประเทศของเราในอนาคต”
ขอบคุณที่มา mothership