เมื่อวันที่ 6 มี.ค. วอชิงตันโพสต์รายงานว่า หลังจากเหตุพายุถล่มรัฐเมน ถึงรัฐจอร์เจีย ทางทิศตะวันออกของประเทศสหรัฐ จนมีผู้เสียชีวิต 8 คน และเมืองหลายเมืองต้องเป็นอัมพาตจากน้ำท่วม โดยหลังจากพายุสงบลงแล้ว มีผู้พบซากไม้เกยตื้นอยู่บนหาดทราย ซึ่งเชื่อว่าเป็นท้องเรือสมัยสงครามปฏิวัติสหรัฐปลดแอกจากอังกฤษ ในช่วงค่อนปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18

เจ้าหน้าที่สายสืบนายแมตธิว เจ. เคลกิน่า จากสถานีตำรวจเมืองยอร์ก กล่าวว่าซากเรือวางตัวอยู่ห่างจากลานจอดรถใกล้กับชายฝั่งราว 18 เมตร พร้อมกับได้บันทึกภาพซากเรือดังกล่าว นอกจากนี้ เรือดังกล่าวยังกลายเป็นจุดประวัติศาสตร์ที่สร้างความภาคภูมิใจของท้องถิ่นไปแล้วอีกด้วย อย่างไรก็ตามซากเรือลำนี้จะโผล่ขึ้นมาให้เห็นหลังจากเกิดพายุแล้วเท่านั้น โดยครั้งแรกที่ปรากฎขึ้นคือปี 2501 จนนำไปสู่การค้นหาที่มาของมัน หลังจากนั้นก็ปรากฎขึ้นในปี 2550

น.ส.ชารอน คูมินส์ ได้เขียนถึงซากเรือลำนี้ในซีคอสต์ ออนไลน์ว่านักโบราณคดี นายวอร์เรน รีสซ์ ตั้งข้อสมมุติฐานว่าเรือลำนี้น่าจะสร้างขึ้นในยุคปฏิวัติสหรัฐ ซึ่งดูจากรูปทรงของเรือ พร้อมกันนี้ยังเขียนด้วยว่าเรือลำนี้มักจะปรากฎตัวขึ้นด้วยความลึกลับ ตั้งแต่จำนวนปี ซึ่งเรือลำนี้ปรากฎขึ้นไม่บ่อยนัก แต่จะเผยตัวออกมาในช่วงเวลา ประมาณ 10 ปี หรือ 20 ปี

ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการดูแลรักษาวัตถุทางประวัติศาสตร์ของรัฐเมนได้ประกาศให้พื้นที่พบซากเรือดังกล่าวเป็นพื้นที่โบราณสถานไปแล้ว นอกจากนี้ซากเรือที่ค้นพบชื่อว่ายูเอสเอสโปรวีเดนซ์ เป็นเรือเสาเดี่ยวขนส่งเสบียง และขนส่งเคลื่อนย้ายทหารจากชายฝั่งสู่ชายฝั่ง พร้อมกันนี้เชื่อว่าเรือลำนี้ถูกฝั่งอังกฤษยิงจนจมสู่ก้นสมุทร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน