มติครม.ญี่ปุ่น-วันที่ 26 มี.ค.เอเอฟพีรายงานว่า คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นมีมติผ่อนคลายความเข้มงวดกฎถ่ายโอนอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารส่งผลให้สามารถส่งออกเครื่องบินรบที่อยู่ระหว่างพัฒนาร่วมกันกับอังกฤษและอิตาลี ถือเป็นเทคโนโลยีเครื่องบินรบที่ทันสมัย โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอและระบบเซนเซอร์ช่วยนักบิน ตั้งเป้าพัฒนาเสร็จสิ้นภายในปีค.ศ.2035 หรือปีพ.ศ.2578

นายโยชิมาสะ ฮายาชิ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้เปลี่ยนกฎการส่งออกอาวุธของญี่ปุ่น หลังจากพรรคร่วมรัฐบาลเห็นพ้องร่วมกันเมื่อต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา แตกต่างจากเดิมที่ไม่สามารถส่งออกอาวุธทางทหารไปยังประเทศที่สาม แม้มีการยกเว้นในบางกรณีก็ตาม

นายฮายาชิกล่าวอีกว่า แผนที่จะสร้างเครื่องบินรบที่มีขีดความสามารถและจำเป็นต่อความมั่นคงของชาตินั้นต้องเกิดขึ้น เพื่อรับประกันว่าการป้องกันประเทศของญี่ปุ่นจะไม่ถูกทำลายลง โดยญี่ปุ่นสามารถขายอุปกรณ์ทางทหารไปยังประเทศที่เป็นหุ้นส่วนเท่านั้น

อีกทั้งเครื่องบินรบสามารถขายให้ได้แค่ประเทศที่ไม่มีความขัดแย้งดำเนินอยู่ ตามที่ได้ลงนามในคำมั่นสัญญาระหว่างประเทศที่จะใช้อาวุธสอดคล้องกับกฎบัตรสหประชาชาติหรือยูเอ็นและการขายให้แต่ละประเทศต้องได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งระบบที่เข้มงวดนี้ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นพิสูจน์กับประชาชนและโลกได้ว่า ญี่ปุ่นยังรักษากฎพื้นฐานสำคัญในฐานะชาติที่รักสงบอยู่

ย้อนไปเมื่อเดือนธ.ค.ปี 2565 ญี่ปุ่นมีความร่วมมือด้านการบินอังกฤษและอิตาลี ถูกตั้งฉายา “พายุปั่นป่วน” เพื่อพัฒนาเครื่องบินรบรุ่นใหม่ดังกล่าว นับเป็นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ร่วมกันกับประเทศอื่นนอกเหนือจากสหรัฐเป็นครั้งแรก

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นให้คำมั่นเพิ่มงบประมาณทางทหาร 2 เท่าภายในปีค.ศ.2027 โดยอ้างภัยคุกคามจากจีนและเกาหลีเหนือ

ขณะที่บีบีซีรายงานความเคลื่อนไหวดังกล่าวว่าเป็นการเคลื่อนออกจากสถานะชาติที่รักสงบระลอกล่าสุดของญี่ปุ่นที่รัฐธรรมนูญจำกัดความสามารถทางทหารให้เหลือเพียงขีดความสามารถในการป้องกันตนเอง

ในเดือนธ.ค.ปี 2566 ญี่ปุ่นผ่อนคลายกฎเพื่ออนุญาตให้ขายอาวุธที่อันตรายต่อชีวิตภายใต้ใบอนุญาตเพื่อส่งออกให้ประเทศที่ผู้อนุญาตตั้งอยู่ ปูทางให้ญี่ปุ่นส่งจรวดแพตทริออตไปสหรัฐ โดยจรวดแพตทริออตเป็นอาวุธที่ก้าวหน้าที่สุดรุ่นหนึ่งที่สหรัฐส่งไปให้ยูเครน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน