สุดยอดการค้นพบครั้งใหม่ ‘ผลงานศิลปะสุดเลอค่า’ ใต้เศษซากภูเขาไฟ เมืองโบราณ ‘ปอมเปอี’ นักโบราณคดียกให้เป็นหนึ่งในจิตรกรรมฝาผนังที่ดีที่สุดที่ถูกค้นพบ
‘งานศิลปะอันน่าทึ่ง’ ถูกค้นพบในการขุดค้นครั้งใหม่ที่ปอมเปอี เมืองโรมันโบราณที่ถูกฝัง หลังการปะทุของภูเขาไฟวิสุเวียสในปี ค.ศ. 79 ด้านนักโบราณคดีเผยว่า นี่เป็นหนึ่งในจิตรกรรมฝาผนังที่ดีที่สุดที่พบในซากปรักหักพังของโบราณสถาน
มีภาพบุคคลในตำนานกรีก อาทิ เฮเลนแห่งทรอยอยู่บนผนังสูงสีดำของห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่, พื้นกระเบื้องโมเสคสีขาวสภาพค่อนข้างสมบูรณ์กว่าหนึ่งล้านแผ่น
อ่านข่าวเพิ่มเติม : นักโบราณคดีค้นพบภาพวาดเฟรสโก “พิซซ่าอายุ 2,000 ปี” ในเมืองปอมเปอ
1 ใน 3 ของเมืองที่หายสาบสูญยังคงอยู่ใต้เศษซากของภูเขาไฟ การขุดค้นในปัจจุบันนับว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุคนี้ ยิ่งตอกย้ำจุดยืนของ ‘เมืองปอมเปอี’ ในฐานะพื้นที่สำคัญของโลกที่สะท้อนให้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน และวัฒนธรรมของจักรวรรดิโรมัน
ดร.กาเบรียล ซูคทรีเกิล ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์เมืองปอมเปอี ได้เปิดเผย “ห้องดำ” ให้แก่ทาง BBC ได้เยี่ยมชมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (11 เม.ย.)
เป็นไปได้ว่าสีที่เข้มของผนังถูกเลือกมาเพื่อซ่อนควันจากตะเกียงที่ใช้ระหว่างงานบันเทิงหลังดวงอาทิตย์ตกดิน
“ภายใต้แสงที่ส่องประกาย ภาพวาดต่าง ๆ แทบจะมีชีวิตขึ้นมา” เขากล่าว
มีการพบจิตรกรรมฝาผนังสองชิ้น โดยชิ้นแรกเป็นภาพ ‘เทพเจ้าอพอลโล’ พยายาม เกี้ยวพาราสีนักบวชหญิง ชื่อว่า ‘กัสซันดรา’ ซึ่งตามตำนานเธอปฏิเสธ ส่งผลให้เธอโดนเขาสาปให้เธอเป็นผู้มองเห็นอนาคต ทว่าคำพยากรณ์ของเธอจะถูกเพิกเฉย ไม่มีใครเชื่อ
ภาคต่อของโศกนาฏกรรม ได้รับการบอกเล่าในภาพวาดที่สอง ซึ่งเป็นภาพ เจ้าชายปารีส ได้พบกับ เฮเลนผู้งดงาม โดย กัสซันดรา มองเห็นอนาคตว่าการพบกันในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งหายนะและไปสู่สงครามกรุงทรอย
“ห้องดำ” ถือเป็นสมบัติชิ้นล่าสุดที่ถูกค้นพบจากการขุดค้นที่ดำเนินมากว่า 12 เดือนแล้ว การสืบสวนดังกล่าวจะนำเสนอในซีรีส์สารคดีจาก BBC และ Lion TV จะออกอากาศในเดือนเมษายนนี้
หินภูเขาไฟและขี้เถ้าที่หลงเหลือจากการปะทุของภูเขาวิสุเวียสเมื่อเกือบ 2,000 ปีก่อน ซึ่งทับถมอยู่ที่บล็อกที่อยู่อาศัยและแหล่งการค้าอันกว้างใหญ่ ที่เรียกว่า “ภูมิภาค 9” กำลังจะถูกกำจัดออก
โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อปกป้องสิ่งที่ค้นพบใหม่ และเคลื่อนย้ายไปไว้ในห้องเก็บของ
สำหรับจิตรกรรมฝาผนังที่ต้องคงอยู่ในตำแหน่ง จะมีการฉีดกาวปูนปลาสเตอร์ไปทางด้านหลังเพื่อป้องกันไม่ให้หลุดออกจากผนัง
ดร.โรเบอร์ตา พริสโก หัวหน้างานฝ่ายบูรณะใช้เวลาวันอังคารในสัปดาห์นี้ เพื่อพยายามหยุดยั้งการพังทลายของซุ้มประตู
“นี่เป็นความรับผิดชอบที่ใหญ่หลวงมาก ดูฉันสิ” เธอกล่าว ราวกับจะบ่งบอกว่าความเครียดกำลังส่งผลต่อเธออย่างเห็นได้ชัด
“เรามีความหลงใหลและความรักอย่างลึกซึ้งต่อสิ่งที่เราทำอยู่ เพราะสิ่งที่เรากำลังค้นพบและปกป้องก็เพื่อความสุขของคนรุ่นต่อจากเราด้วยเช่นกัน”
เมืองปอมเปอี ภูมิภาค 9 กำลังเป็นงานสืบสวนอันท้าทายของนักโบราณคดี
การขุดค้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เผยให้เห็นห้องซักรีดในมุมหนึ่ง ทั้งยังเผยให้เห็นร้านเบเกอรี่ที่อยู่ติดกัน รวมถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีห้องสีดำ
ทีมงานเชื่อว่า พื้นที่ทั้ง 3 ไม่เพียงสามารถเชื่อมต่อกันได้ทางกายภาพผ่านทางท่อประปาและทางเดินเฉพาะ แต่ยังรวมไปถึงในแง่ของความเป็นเจ้าของด้วย
ตัวตนของบุคคลเหล่านี้มีคำจารึกไว้หลายฉบับซึ่งมีอักษรย่อว่า “ARV” ตัวอักษรปรากฏบนผนังและแม้แต่บนโม่หินของร้านเบเกอรี่ด้วย
“เรารู้ว่า ARV คือใคร เขาคือ ออลัส รุสทิอุส เวอรุส (Aulus Rustius Verus)” ดร. โซฟี เฮย์ นักโบราณคดีในอุทยานอธิบาย “เรารู้จักเขาจากการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองอื่น ๆ ในเมืองปอมเปอี เขาเป็นนักการเมือง เขารวยมาก เราคิดว่าเขาอาจจะเป็นคนที่เป็นเจ้าของบ้านหรูหลังร้านเบเกอรี่และร้านซักรีด”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชัดเจนก็คือทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ระหว่างการปรับปรุงใหม่ในขณะที่เกิดการปะทุ
คนงานที่พยามหลบหนีทิ้งกระเบื้องมุงหลังคาไว้อย่างเรียบร้อย ปูนขาวในหม้อของพวกเขายังเต็มอยู่เพื่อรอใช้ เกรียงและพลั่วยังคงอยู่ แม้ว่าด้ามไม้จะเน่าเปื่อยไปนานแล้วก็ตาม
ดร.ลีอา ทราปานี จัดทำรายการทุกอย่างที่ถูกพบตั้งแต่การขุดค้น เธอโชว์อุปกรณ์สิ่งหนึ่ง เป็นกรวยสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ “มันคือลูกตะกั่วถ่วงน้ำหนัก” คนงานชาวโรมันจะใช้มันเพื่อจัดแนวพื้นผิวแนวตั้ง เช่นเดียวกับผู้สร้างในปัจจุบัน
เธอชี้ให้เห็นว่า “ถ้าคุณมองใกล้ ๆ คุณจะเห็นว่ายังมีเชือกโรมันชิ้นเล็ก ๆ ติดอยู่”
ดร.อเลสซานโดร รุสโซ นักโบราณคดีร่วมอีกคนในการขุดค้น เขาต้องการแสดงจิตรกรรมฝาผนังบนเพดานที่กู้คืนมาจากห้องหนึ่งให้เราดู ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ถูกขุดขึ้นมาแตกหักระหว่างการปะทุ ถูกนำมาจัดวางแบบจิ๊กซอว์ไว้บนโต๊ะขนาดใหญ่
เขาพ่นละอองน้ำลงบนแผ่นปูนปลาสเตอร์ ทำให้รายละเอียดและสีสันสดใสโดดเด่นขึ้นมา คุณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่มีตัวอักษรอียิปต์ อาหารและดอกไม้ และหน้ากากละครอันโอ่อ่าบางส่วน
“นี่คือการค้นพบที่ผมชอบที่สุดในการขุดค้นครั้งนี้ เพราะมันซับซ้อนและหายาก มีคุณภาพสูงสำหรับบุคคลที่มีสถานะสูง(คนชั้นสูง)” เขาอธิบาย
แต่หากสามารถอธิบายความงดงามของผลงานจิตรกรรมฝาผนังถึงการมีทรัพย์สินอันยิ่งใหญ่ของเจ้าของ สิ่งที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับร้านเบเกอรี่ก็บ่งบอกถึงแง่มุมที่โหดร้ายยิ่งกว่าในชีวิตของชาวโรมัน นั่นก็คือ การเป็นทาส
เห็นได้ชัดว่าคนที่ทำงานในร้านขนมปังนี้ถูกขังอยู่ในสภาพที่น่าสลดใจ โดยอาศัยอยู่กับลาที่คอยหมุนเครื่องโม่แป้งที่ทำจากหิน หนำซ้ำดูเหมือนจะมีหน้าต่างเพียงบานดียวและมีการติดเหล็กดัดไว้ป้องกันการหลบหนี
ในร้านเบเกอรี่ยังมีการค้นพบโครงกระดูก ผู้ใหญ่ 2 คน และ เด็ก 1 คนถูกก้อนหินทับทับ นำไปสู่การตั้งข้อสังเกตว่า พวกเขาอาจเป็นทาสที่ติดอยู่และไม่สามารถหนีจากการปะทุได้ ซึ่งเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น
“เมื่อเราขุดค้นลึกลงไปเท่าไหร่ เราก็ยิ่งสงสัยว่าเรากำลังดูอะไรอยู่” ดร.เกนนาโร โลวิโน นักโบราณคดีร่วมอธิบาย
“มันเหมือนกับละครเวที คุณมีทิวทัศน์ ฉากหลัง และผู้ร้าย ซึ่งก็คือภูเขาไฟวิสุเวียส นักโบราณคดีจะต้องเก่งในการอุดช่องว่าง โดยบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครที่หายไป นั่นก็คือครอบครัวและเด็ก ๆ คนที่ไม่อยู่แล้ว”
ที่มา : BBC