โสมเหนือเกรี้ยวกราด จวก3ชาติถกถอดชนวนวิกฤตคาบสมุทรเกาหลี

โสมเหนือเกรี้ยวกราด – วันที่ 27 พ.ค. รอยเตอร์รายงานว่า เกาหลีเหนือประณามจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ กรณีทั้งสามชาติเผยแพร่แถลงการณ์ร่วมจุดยืนให้คาบสมุทรเกาหลีเป็นพื้นที่ปลอดอาวุธนิวเคลียร์ หลังเกาหลีเหนือประกาศแผนยกระดับการพัฒนาระบบส่งหัวรบนิวเคลียร์

ทางการเกาหลีเหนือ ระบุว่า ท่าทีร่วมกันของทั้งสามชาตินั้นถือเป็นการยั่วยุทางการเมืองอย่างรุนแรง รวมทั้งเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของเกาหลีเหนือ

โสมเหนือเกรี้ยวกราด

ฟูมิโอะ คิชิดะ (ซ้าย) ยุน ซ็อกยอล (กลาง) และหลี่ เค่อเฉียง (รอยเตอร์)

รายงานระบุว่า การประชุมของทั้งสามชาติที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 เพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันด้านความมั่นคง เน้นย้ำถึงจุดยืนการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพ รวมถึงการทำให้คาบสมุทรเกาหลีเป็นพื้นที่ปลอดอาวุธนิวเคลียร์

ขณะที่การเผยแพร่แถลงการณ์ร่วมกันของทั้งสามชาติเกิดขึ้นหลังทางการเกาหลีเหนือประกาศแผนทดสอบปล่อยขีปนาวุธและส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรเพิ่มอีกภายในวันที่ 4 มิ.ย.

ส่งผลให้ทั้งสามชาติเรียกร้องเกาหลีเหนือให้ยุติการกระทำดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะทำให้เกาหลีเหนือมีความสามารถในการโจมตีเป้าหมายด้วยหัวรบนิวเคลียร์มากขึ้น

โสมเหนือเกรี้ยวกราด

คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ)

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ ระบุว่า การหยิบยกประเด็นข้างต้นขึ้นมานั้นเป็นการดูหมิ่นเกาหลีเหนืออย่างไม่สามารถอภัยให้ได้ และเป็นการประกาศสงครามต่อเกาหลีเหนือ

“การหารือเรื่องการทำให้คาบสมุทรเกาหลีเป็นพื้นที่ปลอดอาวุธนิวเคลียร์เป็นส่วนหนึ่งของการยั่วยุทางการเมืองและการละเมิดอำนาจอธิปไตยของเกาหลีเหนือ” และว่า “ท่าทีของทั้งสามชาติเป็นการกีดกันและล่วงละเมิดต่อเจตจำนงค์ร่วมกันของประชาชนเกาหลีเหนือทั้งหมด”

อย่างไรก็ดี นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน มิได้กล่าวถึงเกาหลีเหนือโดยตรงในแถลงการณ์แต่ใช้คำว่า ขอเรียกร้องไปยัง “ทุกฝ่าย” ให้ช่วยกันถอดชนวนความขัดแย้งแทน

ส่วนประธานาธิบดียูน ซ็อกยอล ผู้นำเกาหลีใต้ และนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวเรียกร้องไปยังเกาหลีเหนือโดยตรงให้ยุติการส่งดาวเทียมสอดแนมดวงที่สองขึ้นสู่วงโคจร

ทั้งนี้ ทางการจีนเคยสร้างความไม่พอใจให้เกาหลีเหนืออย่างรุนแรงกรณีที่เห็นด้วยกับมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพื่อกดดันให้ยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีปในเวทีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ระหว่างปี 2549 ถึง 2560

ทว่า ท่าทีของจีนเริ่มเปลี่ยนไปหลังรัสเซียส่งกำลังทหารบุกยูเครน โดยจีนมีความใกล้ชิดกับรัสเซียมากขึ้น และร่วมมือกับรัสเซียในเวที UNSC เพื่อเดินหน้าผลักดันให้มีการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน