สวมบทนักสืบ สาวใช้แอปเปิล วอตช์ แกะรอยหากระเป๋า ที่แท้คนร้าย เป็นคนในสนามบิน

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานกรณีผู้โดยสารรายหนึ่งที่เดินทางกับสายการบินสปิริต แอร์ไลน์ ได้แกะรอยหากระเป๋าเดินทางที่หายไป ด้วยการใช้ Apple Watch สุดท้ายไปโผล่บ้านชายคนหนึ่ง ทราบภายหลังเป็นพนักงานประจำสนามบินนานาชาติฟอร์ตลอเดอร์เดล-ฮอลลีวูดในฟลอริดา

โดยผู้โดยสารรายนี้ชื่อ เปาลา การ์เซีย ได้เดินทางกับสายการบินสปิริต แอร์ไลน์ จากสนามบินนานาชาติฟอร์ต ลอเดอร์เดล-ฮอลลีวูด ในฟลอริดา แต่วันนั้นสายการบินถูกยกเลิก และแจ้งให้ผู้โดยสารไปรับกระเป๋าเดินทางคืนที่สายพานส่งกระเป๋าเทอร์มินัล 4

แต่เมื่อเธอไปรอรับกระเป๋าก็พบว่า กระเป๋าเดินทางสีชมพูของเธอไม่ได้อยู่ในสายพาน โดยภายในกระเป๋า มีอุปกรณ์และของมีค่าหลายชิ้น อย่าง แม็คบุ๊ก ไอแพด แอปเปิลวอตช์ เสื้อผ้าแบรนด์เนมและเครื่องประดับมีค่า เธอจึงรีบแจ้งกับทางพนักงานสนามบิน

ภาพประกอบ

โดยเธอรอเป็นเวลากว่าสองชั่วโมง เธอก็ยังไม่ได้กระเป๋าคืน เธอจึงเริ่มกังวลอย่างมาก เพราะเธอต้องใช้แล็ปท็อปสำหรับการเรียน เนื่องจากเธอต้องเตรียมตัวสอบในวันรุ่งขึ้นแต่ทางสายการบินตอบกลับเธอแค่ว่า จะส่งกระเป๋าเดินทางของเธอไปให้ที่บ้านในอีกวัน

เธอจึงตัดสินใจตามหากระเป๋าโดยใช้วิธีแกะรอยจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในกระเป๋า ช่วยติดตามตำแหน่งอุปกรณ์ จนสามารถแกะรอยไปจนเจอตำแหน่งอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในฟอร์ต ลอเดอร์เดล และโทร. แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ เมื่อพอเจ้าหน้าที่ไปถึงบ้านต้องสงสัย แต่ไม่พบกระเป๋าเดินทางของเธอ

ภาพประกอบ

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่สนามบิน ก่อนพบภาพของผู้ต้องสงสัยเข้าไปในห้องเก็บของของทางร้านพร้อมกับกระเป๋าเดินทางสีชมพู จากนั้นก็เปิดกระเป๋าและค้นข้าวของข้างในนำไปใส่ถุงอีกใบหนึ่ง

เจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายจูเนียร์ จีเนียส บาซิลผู้ต้องสงสัยวัย 29 ปี ในข้อหาลักทรัพย์ โดยเขาเป็นพนักงานของร้านค้าปลีก Paradies Lagardère Travel Retail ในสนามบินและมีบันทึกว่าเขาเข้าทำงานในวันที่กระเป๋าเดินทางของการ์เซียหายไป

ภาพประกอบ

ขณะเดียวกัน ทางด้านสายการบินสปิริต แอร์ไลน์ ออกแถลงว่า ทางสายการบินไม่พบหลักฐานว่าการขโมยครั้งนี้เกี่ยวข้องกับพนักงานของสายการบิน แต่ทางสายการบินได้เสนอค่าชดเชยให้การ์เซีย เนื่องจากกระเป๋าเดินทางของเธอโดนขโมยไปเพื่อเป็นการปลอบขวัญ

ทั้งนี้ นายบาซิลถูกตั้งข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาในฟลอริดา หากของมีค่าที่ขโมยมามีมูลค่ามากกว่า 750 ดอลลาร์สหรัฐ เขาอาจเผชิญโทษจำคุกสูงสุด 5-30 ปี และถูกปรับเป็นเงินตั้งแต่ 5,000 – 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน