เมื่อวันที่ 22 มี.ค. เดลีเมล์รายงานข่าวจากกลุ่มสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนในซีเรีย สำนักงานที่อังกฤษ ว่ามีพลเรือนซีเรียเสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย จากการทิ้งระเบิดเหนือเมืองอิดลิบ ในจำนวนดังกล่าวมีเด็กถึง 16 ราย ที่บังเอิญถูกลูกหลงจากระเบิดระหว่างเดินทางกลับบ้านหลังโรงเรียนเลิก

หน่วยงานด้านการสอดส่องเรื่องสิทธิมนุษยชนจากอังกฤษ เผยว่าผลจากการใช้การโจมตีทางอากาศของรัสเซีย ที่หนุนหลังรัฐบาลบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย ใส่พื้นที่ที่ยึดครองโดยกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ในเมืองอิดลิบ ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรอยู่อย่างหนาแน่น

ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีใส่หมู่บ้านคฟาร์ บาตกีห์ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองดังกล่าว อย่างน้อย 20 ราย และมีเด็กจำนวนไม่น้อยเสียชีวิตอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุราว 7 ถึง 10 ขวบ

นอกจากนี้ทางหน่วยงานดังกล่าวได้เปิดเผยตัวเลขล่าสุดกับการโจมตีตลาดจารามานา ในกรุงดามัสกัส จนมีผู้เสียชีวิต 43 คน รวมไปถึงกลุ่มนักรบติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลอีกด้วย โดยการโจมตีในเมืองหลวงครั้งนี้เป็นผลมาจากการใช้อาวุธปืนครกยิงใส่ ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง

ด้านองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็นระบุเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า การโจมตีเมืองกูตา ทางทิศตะวันออกของซีเรีย จากฝั่งรัฐบาลส่งผลให้มีประชาชนกว่า 45,000 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย และคาดว่ามีชาวซีเรียกว่า 400,000 คนยังติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ

หน่วยงานป้องกันภัยพลเรือนของซีเรียเปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิต จากการโจมตีล่าสุดของรัฐบาลว่ามีพลเรือนจำนวน 1,252 คนเสียชีวิต และอีกเกือบ 3,000 รายเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศ รวมไปถึงอีกร้อยกว่าคนที่ถูกระเบิดโจมตีเสียชีวิต

ทั้งนี้ มีฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียได้โจมตีด้วยการวิพากษ์ วิจารณ์ว่า จากการโจมตีอย่างหนักที่ได้รับความช่วยเหลือของรัสเซีย ที่โจมตีกดดันกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเพื่อให้มีการหันหน้ามาเจรจาบรรลุสัญญาการหยุดยิงระหว่างกัน โดยจากความพยายามดังกล่าวเสมือนกับความชอบธรรมในการบังคับชาวซีเรียหลายคนต้องออกจากพื้นที่ที่อยู่อาศัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน