ซาอุดีอาระเบียชี้แจงยอดดับ – วันที่ 24 มิ.ย. บีบีซี รายงานว่า สำนักข่าวซาอุดีเพรส (เอสพีเอ) เปิดเผยว่ายอดผู้เสียชีวิตในช่วงประกอบ พิธีฮัจญ์ ที่นครมักกะฮ์หรือเมกกะ ของซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 15-19 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 1,301 ราย
และว่ามากกว่า 3 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้แสวงบุญที่ไม่ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ ประกอบกับต้องเดินเท้าระยะไกลท่ามกลางการเผชิญหน้ากับสภาพอากาศร้อนจัดที่อุณหภูมิเฉลี่ยเกิน 50 องศาเซลเซียส
นายฟาฮัด อัล-จาลาเจล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่ามีความพยายามสร้างความตระหนักเกี่ยวกับภัยอันตรายของความร้อนและวิธีรับมือกับปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าสถานพยาบาลดำเนินการรักษาผู้แสวงบุญเกือบ 500,000 คน ในจำนวนนี้มากกว่า 140,000 คนไม่มีใบอนุญาตร่วมพิธี
ทั้งนี้ ทางการซาอุดีอาระเบียถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเพิกเฉยความปลอดภัยของผู้แสวงบุญ โดยเฉพาะศาสนิกชนที่ไม่ได้ขอใบอนุญาตอย่างเป็นทางการและส่งผลให้ผู้แสวงบุญกลุ่มนี้ไม่สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น เต็นท์ติดเครื่องปรับอากาศและการขนส่ง
ก่อนหน้านี้เอเอฟพีรายงานข้อมูลที่รวบรวมจากเจ้าหน้าที่การทูตของประเทศต่างๆ พบว่าผู้แสวงบุญที่เสียชีวิตมีชาวอียิปต์อย่างน้อย 658 ราย อินโดนีเซียมากกว่า 200 ราย อินเดีย 98 ราย และยังมีผู้เสียชีวิตจากปากีสถาน มาเลเซีย จอร์แดน อิหร่าน เซเนกัล ซูดาน และเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานของอิรักด้วย
รายงานระบุอีกว่าเมื่อวันเสาร์ที่ 22 มิ.ย. นายกรัฐมนตรีอียิปต์เพิกถอนใบอนุญาตบริษัทท่องเที่ยว 16 แห่ง และให้อัยการดำเนินคดีกับผู้จัดการบริษัทที่ออกใบอนุญาตเข้าร่วมพิธีฮัจญ์ที่นครมักกะฮ์
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีคาอิส ไซเอ็ด แห่งตูนิเซีย ปลดรัฐมนตรีกระทรวงกิจการศาสนาหลังมีกรณีเกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาตร่วมพิธีฮัจญ์ซึ่งเป็นระบบโควตาจัดสรรให้ประเทศต่างๆ แต่เพราะมีการจำกัดจำนวนผู้แสวงบุญหลายคนที่ไม่ได้รับสิทธิ์เลยพยายามทุกวิธีทางเพื่อเข้าร่วมพิธีแม้ไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงเสี่ยงต่อการถูกจับกุมและส่งกลับหากเจ้าหน้าที่พบก่อนเริ่มพิธีฮัจญ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: