เมื่อวันที่ 5 เม.ย. สำนักข่าวตาสส์ของรัสเซียรายงานความคืบหน้ากรณีนางเยคาเตรีนา เฟเดียเยวา อายุ 28 ปี ได้รับการฉีด “ฟอร์มาลีน” แทน “น้ำเกลือ” จากความผิดพลาดของทีมแพทย์ ขณะเข้ารับการผ่าตัดที่หน่วยการแพทย์คลินิก-สุขอนามัยประจำแคว้นอุลยานอฟสค์ ประเทศรัสเซีย จนอาการสาหัส โดยอวัยวะภายในเป็นแผลไหม้สารเคมีอย่างรุนแรง

นางเยคาเตรีนา เฟเดียเยวา – นางกาลีนา บาริชนีโควา / 1UL.RU

ล่าสุด นางเยคาเตรีนาได้เสียชีวิตลงแล้วที่ศูนย์การแพทย์บูร์นาเซียนในกรุงมอสโกของรัสเซีย หลังจากทีมแพทย์ของศูนย์การแพทย์พยายามทำทุกวิถีทางให้ผู้ป่วยฟื้นขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยไว้ได้

นางเยคาเตรีนา เฟเดียเยวา / 1UL.RU

นายราชิด อับดุลลอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ครอบครัว และสวัสดิการสังคมของรัสเซีย ประจำแคว้นอุลยานอฟสค์ กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมสั่งการให้รัฐบาลท้องถิ่นรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิตกลับมาที่บ้านเกิดรวมทั้งค่าฝังศพ พร้อมจัดสรรการให้ความช่วยเหลือจำเป็นทั้งหมดให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย

นางเยคาเตรีนา เฟเดียเยวา – นางกาลีนา บาริชนีโควา / 1UL.RU

สำหรับเหตุสลดเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ระหว่างการผ่าตัดนางเยคาเตรีนา ทีมแพทย์ฉีดฟอร์มาลีนลงช่องท้องโดยความผิดพลาดแทนที่จะเป็นน้ำเกลือ จึงเร่งล้างช่องท้องให้ผู้ป่วยอย่างเร่งด่วน ต่อมาวันที่ 16 มี.ค. นางเยคาเตรีนาถูกนำตัวส่งไปโรงพยาบาลประจำแคว้นอุลยานอฟสก์ ก่อนจะส่งไปรักษาที่ศูนย์การแพทย์ฯในกรุงมอสโกเพื่อการรักษาประสิทธิภาพสูงสุด

“ฟอร์มาลีน” หรือ “น้ำเกลือ” – ราคาที่จ่ายด้วยความผิดพลาดของแพทย์

เทปรายงานพิเศษของรายการข่าวเวสตี สถานีโทรทัศน์รอสซียา 24 ของรัสเซีย ชี้ว่า โอกาสรอดชีวิตของนางเยคาเตรีนาจะเพิ่มขึ้น หากทีมแพทย์แจ้งความผิดพลาดทันทีโดยไม่ปิดเงียบไว้ ขณะที่อัยการแคว้นอุลยานอฟสค์เริ่มตรวจสอบหน่วยการแพทย์คลินิก-สุขอนามัยประจำแคว้นอุลยานอฟสค์แล้ว

นางกาลีนา บาริชนีโควา – VESTI

นางกาลีนา บาริชนีโควา แม่ของนางเยคาเตรีนา เผยว่า ตลอดเกือบ 3 สัปดาห์ ทีมแพทย์แคว้นอุลยานอฟพยายามแก้ปัญหาที่เพื่อนร่วมวิชาชีพทำไว้ ขณะที่ทีมแพทย์ในกรุงมอสโกทำการช่วยชีวิตลูกสาวจนรู้สึกตัวขึ้นมาได้อีกครั้ง แต่อวัยวะภายในร่างกายอ่อนแอเกินกว่าที่จะทนความเจ็บปวด

“ผ่านไป 1 ช.ม. ลูกสาวดิฉันเริ่มปวดท้องรุนแรงมากขึ้นค่ะ” นางกาลีนากล่าวทั้งน้ำตา

นางเยคาเตรีนาเข้ารับการผ่าตัดที่หน่วยการแพทย์ฯประจำแคว้นอุลยานอฟสค์ทุกวัน แต่เกิดความผิดพลาดในนาทีสุดท้าย ขณะทำความสะอาดอวัยวะภายในร่างกาย แพทย์กลับฉีดฟอร์มาลีน ซึ่งเป็นสารอันตรายถึงชีวิต ในปริมาณ 200 กรัม เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งที่จริงแล้วจะต้องฉีดน้ำเกลือเข้าไป

(ซ้าย) ขวดน้ำเกลือ และ (ขวา) ขวดฟอร์มาลีน – VESTI

แพทย์สามารถแยกแยะได้ระหว่าง “น้ำเกลือ” กับ “ฟอร์มาลีน” เนื่องจากขวดบรรจุฟอร์มาลีนนั้นจะติดฉลากสีแดงพร้อมข้อความกำกับว่า “ยาใช้ภายนอก” นอกจากนี้ ฟอร์มาลีนเป็นยาที่มีกลิ่นฉุนและฤทธิ์รุนแรง จึงมีการจัดเก็บบนชั้นวางเป็นการเฉพาะและห่างจากยาชนิดอื่น

สำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ทีมแพทย์ผ่าตัดทราบตั้งแต่แรกแล้ว แต่เลือกปิดเงียบไว้อย่างแนบเนียน แม้ว่าแพทย์ผู้ช่วยชีวิตพยายามหาสาเหตุที่ทำให้อาการของผู้ป่วยเลวร้ายลง ทีมแพทย์ก็ยังไม่แจ้งและปิดเงียบต่อไป

อาซาต อัคชีกีตอฟ หัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนแห่งชาติรัสเซียประจำแคว้นอุลยานอฟสค์ ระบุว่า “จนรุ่งเช้าวันถัดมา เมื่อสถานการณ์เริ่มแย่ลง ทีมแพทย์ผ่าตัดถึงยอมรับความจริง (ว่าฉีดฟอร์มาลีนแทนน้ำเกลือ)”

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีคำสั่งไล่ออกผู้อำนวยการโรงพยาบาล พยาบาลอาวุโส และทีมแพทย์ผ่าตัดทั้งหมด ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ความผิดพลาดสำคัญหลักคือ “การไม่พูด” ที่ทำให้โอกาสช่วยชีวิตนางเยคาเตรีนาหมดสิ้นไป

ข้อมูลในเบื้องต้นระบุว่า ออลกา ซูบรีลีนา พยาบาลที่ทำงาน 3 เดือน ในหน่วยการแพทย์ฯประจำแคว้นอุลยานอฟสค์ เป็นผู้ยื่นขวดบรรจุฟอร์มาลีนให้แพทย์ แต่เจ้าตัวปฏิเสธชี้แจงสาเหตุของความผิดพลาดในครั้งนี้ ขณะที่พญ.วาเลนตีนา โรดีโอโนวา แพทย์ผู้มีประสบการณ์ 30 ปี ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง

พญ.วาเร ชิวิลกีนา รองหัวหน้าแพทย์ หน่วยการแพทย์ฯประจำแคว้นอุลยานอฟสค์ ระบุว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ “แค่ไม่รู้จักอ่านฉลาก (ที่ติดขวดบรรจุยาไว้)”

คณะกรรมการสอบสวนแห่งชาติฯกำลังพิจารณาความอาญาในข้อหา “ประมาทเลินเล่อจนเป็นเหตุผู้อื่นถึงแก่ความตาย” แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครตกเป็นผู้ต้องหา อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนระบุว่าจะดำเนินคดีไม่เฉพาะทีมแพทย์ผ่าตัดอย่างเดียว แต่มีผู้อำนวยการโรงพยาบาลด้วย

ขอสงวนคำแปลจากภาษาต้นฉบับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน