สรุปไทม์ไลน์ ประธานาธิบดี เกาหลีใต้ ประกาศกฎอัยการศึก ทำมวลประชาชนลุกฮือ รวมตัวกันที่หน้าอาคารรัฐสภา ก่อนสส.ลงมติคัดค้าน จบใน 6 ชม.
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 จากกรณีเหตุสะเทือนโลกสุดช็อก เมื่อ ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ผู้นำเกาหลีใต้ แถลงโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ประกาศใช้กฎอัยการศึก เพื่อกวาดล้างกลุ่มต่อต้านรัฐและฝักใฝ่เกาหลีเหนือ สร้างความงุนงงไปทั่วเกาหลีใต้
ส่งผลให้บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมุ่งหน้ารวมตัวที่อาคารรัฐสภาทันทีเพื่อลงมติคัดค้านกฎอัยการศึก ท่ามกลางมวลประชาชนลุกฮือต่อต้าน
วันนี้ ข่าวสดออนไลน์ รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว เกิดอะไรขึ้นในเกาหลีใต้? ทำไมถึงประกาศกฎอัยการศึก? เปิดไทม์ไลน์เหตุการณ์ ประธานาธิบดี เกาหลีใต้ ประกาศกฎอัยการศึก ตั้งแต่เริ่มต้น จนเกิดกระแสประชาชนลุกฮือ ก่อนสส.ลงมติคัดค้าน จบใน 6 ชม.

ภาพประกอบ
อ่านข่าวเพิ่มเติม :
- ด่วน! ปธน.เกาหลีใต้ ประกาศกฎอัยการศึก อ้างปกป้องประเทศจากภัยคุกคามกองกำลังคอมมิวนิสต์
- โลกสะเทือน! เปิดเหตุผลประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศกฎอัยการศึก งงทั้งประเทศ
- โสมใต้ตึงเครียดหนัก ผู้นำฝ่ายค้านปลุกประชาชน รวมตัวแสดงพลัง หลัง ปธน.ประกาศกฎอัยการศึก
- เสียงข้างมากสภาเกาหลีใต้ ลงมติเรียกร้องประธานาธิบดียุน “ยกเลิกกฎอัยการศึก”
กฎอัยการศึกคืออะไร?
“กฎอัยการศึก” คือ กฎหมายซึ่งได้ตราขึ้นไว้สำหรับประกาศใช้เมื่อมีเหตุจำเป็น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เป็นการมอบอำนาจปกครองประเทศให้แก่กองทัพชั่วคราวในยามที่เกิดภาวะฉุกเฉิน และรัฐบาลพลเรือนถูกพิจารณาว่าไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ตัวอย่างเช่น กรณีการเกิดสงคราม, การจลาจล ฯลฯ
ก่อนหน้านี้ในปี 2522 เกาหลีใต้มีการ “ประกาศกฎอัยการศึก” โดย พัค ชอง-ฮี ผู้ปกครองประเทศเผด็จการทหาร ก่อนที่จะถูกลอบสังหารระหว่างมีการก่อรัฐประหาร
กระทั่งปี 2530 เกาหลีใต้ปกครองโดยมีระบบรัฐสภา ทำให้ไม่เคยมีการใช้กฎอัยการศึกอีกเลย จนกระทั่งเมื่อคืนวันอังคารที่ (3 ธ.ค. 67) ผ่านมา

ภาพประกอบ
“เกาหลีใต้” ประกาศกฎอัยการศึก
- ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ผู้นำเกาหลีใต้ ประกาศใช้กฎอัยการศึก
เมื่อวันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2567 ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ตามเวลาเกาหลีใต้ (21.00 น. ตามเวลาไทย) นายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ แถลงโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ประกาศใช้กฎอัยการศึก เพื่อกวาดล้างกลุ่มต่อต้านรัฐและฝักใฝ่เกาหลีเหนือ สร้างแรงกระเพื่อมและความตื่นตระหนกไปทั่วโลก
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและประธานาธิบดียุน ไม่ได้ระบุเป้าหมายและขั้นตอนที่ชัดเจน โดยระบุเพียงว่า จะกวาดล้างกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลและบรรดากลุ่มผู้ฝักใฝ่เกาหลีเหนือที่ไร้ยางอาย ส่งผลให้มีนักการเมืองทั้งฟากรัฐบาลและฝ่ายค้านออกมาคัดค้านอย่างต่อเนื่อง
ประธานาธิบดียุน กล่าวว่า ไม่มีทางเลือกนอกจากการใช้มาตรการข้างต้น เพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญและสิทธิเสรีภาพของชาวเกาหลีใต้ หลังพรรคฝ่ายค้านที่มีเสียงข้างมากในสภาพยายามใช้กระบวนการทางรัฐสภานำประเทศชาติไปสู่วิกฤต
“ผมขอประกาศใช้กฎอัยการศึก เพื่อปกป้องเสรีภาพของเกาหลีใต้จากภัยคุกคามจากกองกำลังคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ เพื่อกวาดล้างพวกต่อต้านรัฐที่นิยมชมชอบเกาหลีเหนือแสนชั่วช้า ซึ่งพยายามบ่อนทำลายเสรีภาพและความสุขของชาวเกาหลีใต้ รวมถึงเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้เอาไว้” ผู้นำเกาหลีใต้ ระบุ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดียุน ระบุถึงสาเหตุบางส่วนว่า มาจากการที่พรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติปลดอัยการสูงสุดและไม่ยอมผ่านร่างงบประมาณประจำปีของรัฐบาล ซึ่งผู้นำเกาหลีใต้ ระบุว่า เป็นการบ่อนทำลายประสิทธิภาพการทำงานของรัฐ

ภาพประกอบ
- บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมุ่งหน้ารวมตัวที่อาคารรัฐสภาทันที
ด้านบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล มุ่งหน้ารวมตัวที่อาคารรัฐสภาทันที โดยสื่อรายงานว่า สมาชิกรัฐสภาถูกห้ามไม่ให้เข้าอาคาร
นายอี เจเมียง ผู้นำพรรคฝ่ายค้านจากพรรคประชาธิปไตย ระบุว่า เกาหลีใต้กำลังจะอยู่ใต้การปกครองด้วยรถถัง รถหุ้มเกราะ ทหาร ปืน และมีด รวมถึงเศรษฐกิจของเกาหลีใต้จะถูกทำลายอย่างฟื้นกลับมาไม่ได้ ขอให้ประชาชนทุกคนจงออกมาที่รัฐสภาเพื่อแสดงพลัง
- ประชาชนลุกฮือต่อต้านเผด็จการ-เรียกร้องให้ปลด ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล
แรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้นยังสร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวเกาหลีใต้ เนื่องจากเป็นชาติที่เคยเผชิญกับการยึดอำนาจและเผด็จการมาก่อนที่จะกลายมาเป็นระบอบประชาธิปไตยช่วงปี 2523 และทำให้ค่าเงินสกุลวอนของเกาหลีใต้อ่อนค่าลงอย่างหนัก
กลุ่มประชาชนออกมารวมตัวบริเวณหน้ารัฐสภา ต่อต้านเผด็จการ ร่วมตะโกนเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึก พร้อมทั้งมีการเรียกร้องให้ ปลดประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล อีกด้วย
สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา มีเหตุกระทบกระทั่ง อีกทั้งผู้ชุมนุมพยายามย้ายสิ่งของเพื่อกีดขวางเจ้าหน้าที่ และคล้องแขนเป็นกำแพงมนุษย์เพื่อเป็นแนวต้านเจ้าหน้าที่อีกด้วย
ทั้งนี้สื่อพื้นที่รายงานว่า ผู้ฝ่าฝืนกฎอัยการศึกสามารถถูกจับกุมได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ
ขณะที่สื่อมวลชนทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การควบคุมของกองบัญชาการกฎอัยการศึก เช่นเดียวกับกิจกรรมของรัฐสภาและพรรคการเมืองที่ต้องระงับไว้ชั่วคราว

ภาพประกอบ
เจอกระแสต้าน สส.ลงมติคัดค้าน “กฎอัยการศึก”
ช่วงเวลาราว 00.30 น. ตามเวลาเกาหลีใต้ เริ่มมีบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมุ่งหน้ารวมตัวที่อาคารรัฐสภาเพื่อโหวตคัดค้านกฎอัยการศึก เนื่องจากมีกลุ่มกำลังทหารอยู่ด้านหน้า ทำให้ สส.บางคนต้องปีนรั้วเพื่อเข้ารัฐสภา
ในเวลาต่อมาสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติเรียกร้องให้ประธานาธิบดียุนยกเลิกประกาศดังกล่าวซึ่งภายใต้รัฐธรรมนูญ กฎอัยการศึกจะต้องถูกยกเลิกเมื่อเสียงข้างมากในสภาเห็นชอบ
รายงานระบุว่า จากสมาชิกสภานิติบัญญัติ 300 คน มี 190 คนที่เข้าร่วมการประชุม และทั้งหมด 190 คน ลงมติเห็นชอบกับญัตติเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึก ด้านสำนักงานประธานรัฐสภาระบุว่า เมื่อญัตติดังกล่าวผ่านแล้ว การประกาศกฎอัยการศึกจะถือเป็นโมฆะ
ขณะที่พื้นที่ด้านนอก ประชาชนยังคงยืนประท้วงรัฐบาล เรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึก ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บร้ายแรง

ภาพประกอบ
ชัยชนะของประชาชน ผู้นำประกาศยกเลิก “กฎอัยการศึก”
ช่วงเวลาราว 02.00 น. ตามเวลาเกาหลีใต้ หลังจากมีการลงมติเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึก 190 เสียง มีการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่อาคารรัฐสภา ท่ามกลางกระแสในโลกโซเชียลที่ประชาชนออกมาโพสต์คลิปวิดีโอฉลองชัยชนะ และยุติการปะทะกับเจ้าหน้าที่ แต่ยังคงมีบางส่วนที่ปักหลักชุมนุมอยู่ เพื่อกดดันให้ยุนซอกยอลลาออกจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี ในตอนแรก กองทัพประกาศว่า กฎอัยการศึกยังคงดำเนินอยู่ จนกว่าประธานาธิบดีจะประกาศยกเลิก แม้รัฐสภาลงมติคัดค้านแล้วก็ตาม
กระทั่งในช่วงเวลาเกือบตี 5 ตามเวลาเกาหลีใต้ ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก โดยกล่าวภายทางโทรทัศน์ระบุว่า “รัฐสภาได้เรียกร้องให้ยกเลิกภาวะฉุกเฉิน และเราได้ถอนกำลังทหารที่ประจำการเพื่อปฏิบัติการกฎอัยการศึกออกไปแล้ว ทางเราจะรับคำร้องของรัฐสภาและยกเลิกกฎอัยการศึก”
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีของประชาชนบริเวณหน้ารัฐสภา ตะโกนว่า “เราชนะแล้ว!”

ภาพประกอบ
ทั้งนี้สถานการณ์เขย่าประชาธิปไตย นับตั้งแต่ประธานาธิบดียุนซอกยอลประกาศกฎอัยการศึก จนกระทั่งประกาศยกเลิก ใช้เวลาทั้งหมดราว 6 ชั่วโมง ก่อนจะยุติลง
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทั่วโลกจับตาต่อจากนี้ คือ จะเกิดอะไรขึ้นกับประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล และสถานการณ์ต่อจากนี้ของชาวเกาหลีใต้จะเป็นอย่างไร ทิศทางการเมืองจะเป็นเช่นไร