แพทย์แชร์ 2 เคสสุดอึ้ง ชายไต้หวันมีอาการแน่นท้อง อาเจียนไม่หยุด นึกว่าอาหารไม่ย่อย หาหมอ เจอถุงมือยาง-ถ่าน 4 ก้อนในกระเพาะอาหาร
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน กรณีของการกินสิ่งแปลกปลอมเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว โรงพยาบาลหนานโถวในไต้หวันได้จัดการกับปัญหาระบบทางเดินอาหาร 2 กรณีที่เกิดจากผู้ป่วยกลืนสิ่งแปลกปลอมเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายอายุ 40 ปี มีอาการอาเจียนมาหลายวัน และมีอาการแน่นท้องกับคลื่นไส้ร่วมด้วย ซึ่งผู้ป่วยคิดว่าอาการอาหารไม่ย่อย แต่หลังจากกินยารักษากระเพาะมาหลายวัน อาการไม่ดีขึ้น จึงไปรักษาที่โรงพยาบาลหนานโถว เมื่อแพทย์ใช้กล้องเอนโดสโคปตรวจกระเพาะอาหารของผู้ป่วย เขาพบวัตถุสีดำขนาดใหญ่ในช่องท้องของเขา
ศัลยแพทย์ฮุย เจียหรง จากโรงพยาบาลหนานโถวทำการผ่าตัดผ่านกล้องเพื่อเอาสิ่งแปลกปลอมออก และก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า สิ่งแปลกปลอมสีดำดังกล่าว คือ ถุงมือซิลิโคน ซึ่งซิลิโคนไม่สามารถย่อยด้วยกรดในกระเพาะอาหารได้จึงค้างอยู่ในท้องได้ระยะหนึ่งและติดอยู่ในลำไส้เล็กส่วนต้น ทำให้ผู้ชายมีอาการย่อยอาหารลำบากและอาเจียน โชคดีที่หลังจากนำสิ่งแปลกปลอมออกโดยการผ่าตัด อาการไม่สบายทางเดินอาหารของชายคนนี้ก็บรรเทาลง และเขาก็ออกจากโรงพยาบาลได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังการผ่าตัด
ต่อมาคือ ผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นชายวัย 32 ปีถูกส่งไปยังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล หลังจากกลืนแบตเตอรี่ขนาด 2A จำนวน 4 ก้อน (ในไต้หวันเรียกว่าแบตเตอรี่ AA) ผลการเอกซเรย์พบว่า แบตเตอรี่ติดอยู่ในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น แพทย์ด้านตับและทางเดินอาหาร นพ. หวง เหยากวง ถอดแบตเตอรี่ทั้งหมดออกโดยการผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง และผู้ป่วยชายคนดังกล่าวก็ออกจากโรงพยาบาลได้ในวันรุ่งขึ้น
ศัลยแพทย์ฮุย เจียหรง กล่าวว่า การรักษาสิ่งแปลกปลอมที่กินเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจจะพิจารณาตามเงื่อนไขของผู้ป่วยแต่ละราย หากสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในหลอดอาหารหรือกระเพาะอาหาร สถานการณ์จะได้รับการประเมิน และใช้กล้องเอนโดสโคปเพื่อตรวจสอบและนำออก หากสิ่งแปลกปลอมมีขนาดใหญ่เกินไปจะไม่สามารถใช้งานกล้องเอนโดสโคปได้อย่างราบรื่นอาจต้องได้รับการผ่าตัด
ศัลยแพทย์ฮุย เจียหรง กล่าวเตือนว่า มีหลายสาเหตุที่ทำให้คนเราเผลอกลืนวัตถุแปลกปลอมเข้าไป เช่น ความอยากรู้อยากเห็น ความพิการทางร่างกายและจิตใจ ผู้สูงอายุ หรือเด็กเล็ก เป็นต้น ความรุนแรงของการกลืนสิ่งแปลกปลอมจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่า เป็นของมีคมหรือมีฤทธิ์กัดกร่อนหรือไม่
รวมถึงตำแหน่งของสิ่งแปลกปลอมอยู่ในร่างกายและนานแค่ไหน ซึ่งวัตถุแปลกปลอมที่ไม่คมบางชนิดอาจรอให้ร่างกายขับออกมาตามธรรมชาติ แต่ส่วนใหญ่วัตถุแปลกปลอมที่ไม่คมสามารถรอให้ร่างกายขับออกมาตามธรรมชาติได้
อย่างไรก็ตาม หากคุณเผลอกลืนวัตถุแปลกปลอมที่เป็นอันตราย เช่น หมุด กระดุม แบตเตอรี่ หรือลูกบอลแม่เหล็กเข้าไป แนะนำให้ไปพบแพทย์ โดยเร็วที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการแตกของหลอดอาหารและระบบทางเดินอาหาร เยื่อบุช่องท้องอักเสบ หรือภาวะโลหิตเป็นพิษ และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น เยื่อบุช่องท้องอักเสบหรือภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด
แพทย์แนะนำให้ผู้คนเก็บแบตเตอรี่กระดุมและของมีคมไว้ที่บ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ เผลอกินเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ สำหรับผู้สูงอายุพยายามจัดวางสิ่งของที่บ้านและเขียนคำเตือนด้วยแบบอักษรขนาดใหญ่บนบรรจุภัณฑ์เพื่อลดความเสี่ยงจากการบริโภคอาหารโดยไม่ตั้งใจ
