อังกฤษก็น่วม ลดการจ้างงานมากสุดในรอบ 4 ปี ! ตัวเลขการเปิดรับพนักงานใหม่ในเดือนพฤศจิกายน ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 ปรับตัวตามรัฐบาลใหม่
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บรรดาบริษัทในอังกฤษแห่ลดเปิดรับพนักงานใหม่มากสุดในรอบสี่ปี
จนเกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์การปรับขึ้นอัตราภาษีตามแผนงบประมาณฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นแผนงบประมาณแรกของรัฐบาลพรรคแรงงาน
ตามข้อมูลจากสมาพันธ์จัดหางานและการจ้างงาน (Recruitment & Employment Confederation) ร่วมกับเคพีเอ็มจี (KPMG) เผยว่าตำแหน่งงานว่างในอังกฤษลดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020
โดยเฉพาะตำแหน่งงานประจำ ด้วยตำแหน่งงานที่เปิดรับน้อยลงและจำนวนคนพร้อมทำงานที่เพิ่มขึ้น ทำให้ค่าจ้างมีการเติบโตในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2021
รายงานดังกล่าวถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดจากภาคธุรกิจ ต่อภาระภาษี 40,000 ล้านปอนด์ (ราว 1.73 ล้านล้านบาท) ที่เพิ่มขึ้น
ราเชล รีฟส์ (Rachel Reeves) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอังกฤษเรียกเก็บภาษีจากบัญชีเงินเดือนกับทางนายจ้างเพิ่มขึ้น 1.2 จุดเปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 และเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำอีก 6.7%
นีบ คาร์เบอร์รี ประธานบริหารของสมาพันธ์จัดหางานและการจ้างงาน ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย ที่บริษัทต่าง ๆ จะใช้เวลาในเดือนพฤศจิกายนประเมินความจำเป็นในการจ้างงาน หลังทราบประกาศงบประมาณ
จอน โฮลต์ (Jon Holt) ประธานบริหารและหุ้นส่วนอาวุโสประจำสหราชอาณาจักรที่เคพีเอ็มจี กล่าวว่า ธุรกิจต่าง ๆ ต้องพิจารณาผลกำไรเปรียบเทียบกับต้นทุนแรงงานที่จะเพิ่มขึ้น จึงทำให้การจ้างงานชะลอตัวลงทั่วทุกภาคธุรกิจ
ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จับตาผลกระทบของแผนงบประมาณคลังอย่างใกล้ชิดเช่นกัน ว่าจะส่งผลต่อการจ้างงาน ค่าจ้าง และเงินเฟ้ออย่างไรบ้าง เพื่อพิจารณาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
โดยผลสำรวจของประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) พบว่าภาคธุรกิจกว่าครึ่งวางแผนเพิ่มราคาสินค้ากับลดตำแหน่งงานลง
ตามการรายงานของสมาพันธ์จัดหางานและการจ้างงาน พบว่า นายจ้างบางส่วนปรับลดฐานเงินเดือนเริ่มต้น และหันมาจ้างพนักงานชั่วคราวมากขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ทำให้จำนวนพนักงานประจำลดลงอย่างมากในเดือนพฤศจิกายน