ยักษ์ใหญ่สองค่าย ‘ฮอนด้า-นิสสัน’ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ญี่ปุ่น จ่อควบรวมกิจการ หวังสู้วิกฤตคู่แข่ง รถอีวีจีน-เทสลา เล็งมิตซูฯ ควบด้วย
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าวสะเทือนวงการรถยนต์ เมื่อบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ และบริษัท นิสสัน มอเตอร์ กำลังเตรียมเจรจาควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน โดยจะจัดตั้งบริษัทโฮลดิงขึ้นเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกตามปริมาณการผลิต
ท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือดของวงการผลิตรถยนต์ในกลุ่มรถไฟฟ้าของจีน และเทสลา ของสหรัฐที่ยอดขายแซงหน้ากลายเป็นค่ายรถอับดับต้นๆ ของโลก

ภาพประกอบ
นอกจากนี้ Nikkei สื่อญี่ปุ่น ยังรายงานอีกว่า นิสสันและฮอนด้า อาจนำ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เข้ามาควบรวมกิจการด้วยในอนาคต โดย นิสสันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิ
ภายหลังกระแสข่าวออกไป หุ้นของ Nissan พุ่งขึ้นมากกว่า 23% ในโตเกียวเมื่อวันพุธที่ 18 ธ.ค. หุ้นของ Honda ร่วงลงประมาณ 3% ขณะที่หุ้นของ Mitsubishi พุ่งขึ้นเกือบ 20%
โดยการเจรจาในครั้งนี้ สองค่ายรถยนต์กำลังพิจารณาที่จะให้บริษัทใหม่ที่ควบรวมกันนั้นดำเนินงานในรูปแบบบริษัทโฮลดิ้ง (บริษัทที่ถือหุ้นในกิจการอื่นเป็นหลัก) และจะลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในเร็วๆ นี้ ส่วนการถือหุ้นของทั้งสองบริษัทในบริษัทใหม่ รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ จะมีการตัดสินใจในภายหลัง

ภาพประกอบ
ก่อนหน้านี้ ในเดือนมีนาคม ฮอนด้าและนิสสันได้ตกลงที่จะร่วมมือกันในธุรกิจรถอีวี (รถไฟฟ้า) -รถปลั๊กอิน (PHEV) และเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ เพื่อลดต้นทุนและปรับปรุงความสามารถในการแข่งขัน โดยมีมิตซูบิชิ มอเตอร์สเข้าร่วมการเจรจาในเดือนสิงหาคมอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ฮอนด้าและนิสสันกำลังสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในจีน ซึ่งคิดเป็นเกือบร้อยละ 70 ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งทั้งสองค่ายรถยนต์มียอดขายทั่วโลกรวมกัน 7.4 ล้านคันในปี 2566
แต่ก็ต้องดิ้นรนเพื่อแข่งขันกับผู้ผลิตรถอีวี อย่าง BYD ของจีนที่มีรายได้ประจำไตรมาสพุ่งสูงขึ้น แซงหน้า Tesla ของสหรัฐเป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคม

ภาพประกอบ
ในเดือนพฤศจิกายนนี้ นิสสันได้ประกาศแผนเลิกจ้างพนักงาน 9,000 คนทั่วโลก และลดกำลังการผลิตทั่วโลกลงร้อยละ 20 โดยระบุว่า ธุรกิจของบริษัทในสหรัฐฯ และจีนยังคงประสบปัญหา ยอดขายต่ำกว่าที่คาดไว้