อาชญากรรมอังกฤษพุ่ง พนง.ร้านค้าเหยื่อโอชะ-เฉลี่ยวันละ5หมื่นกว่าครั้ง
อาชญากรรมอังกฤษพุ่ง – วันที่ 30 ม.ค. รอยเตอร์รายงานว่า สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) กำลังเผชิญกับแนวโน้มอาชญากรรมประเภทลักขโมยสินค้าและประทุษร้ายพนักงานตามร้านค้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เฉลี่ยแล้วตกวันละกว่า 55,000 ครั้งทั่วประเทศ
ข้อมูลดังกล่าวมาจากการสำรวจของสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกในอังกฤษ (British Retail Consortium – BRC) พบว่า เกิดเหตุลักขโมยสินค้ากว่า 20 ล้านครั้งนับตั้งแต่ 31 ส.ค. 2566 ถึง 31 ส.ค. 2567 คิดเป็นความเสียหายทางธุรกิจมูลค่า 9.2 หมื่นล้านบาท
โดยแนวโน้มการเกิดอาชญากรรมในปีล่าสุดข้างต้นนั้นสูงขึ้นกว่ารอบปีก่อนซึ่งเกิดเหตุกว่า 16 ล้านครั้ง เป็นผลมาจากขบวนการมาเฟียและแก๊งอาชญากรรมที่พุ่งเป้าโจมตีโดยตรงมาที่บรรดาร้านค้าและภาคธุรกิจค้าปลีกทั่วประเทศ
ขณะที่การก่อเหตุประเภทประทุษร้ายพนง.ร้านค้าและผู้ใช้บริการในร้านค้านั้นขยับสูงขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นจากวันละ 1,300 ครั้ง เป็นกว่าวันละ 2,000 ครั้ง ตามลำดับ
นางเฮเลน ดิกกินสัน ประธานสมาคม BRC กล่าวว่า อาชญากรรมในร้านค้ากำลังทวีความรุนแรงจนเกินความควบคุม พนักงานและผู้ใช้บริการถูกคนร้ายถ่มน้ำลายใส่ เหยียดหยามด้วยความเกลียดชังเชิงสีผิวและเชื้อชาติ รวมถึงถูกข่มขู่ด้วยอาวุธอย่างมีดด้ามยาว
ข้อมูลข้างต้นเกิดขึ้นท่ามกลางผลสำรวจความพึงพอใจของชาวอังกฤษต่อหน่วยงานตำรวจต่อการรับมืออาชญากรรมที่อยู่ในระดับน่ากังวล หลังผู้ตอบแบบสอบถามถึงร้อยละ 61 ระบุว่า ตำรวจทำงานได้แย่ไปจนถึงแย่มาก
“ศรัทธาของประชาชนที่สูญเสียต่อองค์กรตำรวจกำลังทำให้เหล่าอาชญากรเหิมเกริมเที่ยวก่อเหตุลักขโมย ข่มขู่ และทำร้ายร่างกายไปทั่ว” นางดิกกินสันระบุ
รายงานของ BRC ฉบับดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ภาคธุรกิจค้าปลีกมีต้นทุนมากขึ้นจากการลงทุนที่มีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องมาตรการความปลอดภัยของร้านค้า ตั้งแต่การว่าจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยไปจนถึงระบบกล้องนิรภัย คิดเป็นมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท (ปี 2565-2566)
ผู้ช่วยสารวัตร อเล็กซ์ กอสส์ แผนกคดีร้านค้าปลีก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวตอบโต้รายงานดังกล่าวว่า ทางตำรวจมีความคืบหน้าในการต่อสู้กับอาชญากรรมตามร้านค้าปลีกมาตลอด รวมถึงการขยายความร่วมมือกันระหว่างตำรวจและร้านค้าต่างๆ
ด้านรัฐบาลอังกฤษที่นำโดยพรรคแรงงานมีนโยบายที่จะปราบปรามอาชญากรรมตามร้านค้าปลีกผ่านร่างกฎหมายใหม่ที่จะระวางโทษหนักขึ้นและข้อหาใหม่เพื่อให้ตำรวจทำงานง่ายขึ้น
ทั้งนี้ ปัญหาอาชญากรรมตามร้านค้าปลีกนั้นเป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นกว้างขวางและบรรดาภาคธุรกิจในอังกฤษเคยแสดงความกังวลมาอย่างต่อเนื่อง เป็นปัญหาที่มีทิศทางเดียวกันกับแนวโน้มในสหรัฐอเมริกา
