จากเหตุการณ์หน่วยงานด้านการเดินเรือของออสเตรเลีย สั่งยุติการค้นหาร่างผู้โดยสารหญิงอายุ 47 ปี ที่พลัดตกจากเรือสำราญหรูแปซิฟิกดอว์นต่อหน้าต่อตาสามีในช่วงวันหยุดพักผ่อน เมื่อวันที่ 13 เม.ย.

อ่านข่าว : ผู้โดยสารหญิงตกเรือสำราญหรูต่อหน้าต่อตาสามี

ล่าสุด เมื่อ 15 เม.ย. เดลีเมล์รายงานว่า สารวัตรตำรวจ ร็อบ เกรแฮม ประจำสถานีตำรวจรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยผลการสอบสวนเบื้องต้นว่า การตกเรือสำราญของหญิงรายนี้ไม่น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ แต่เป็นการกระทำน่าสลด ในทริปที่ควรจะเปี่ยมสุข

Image/dailymail

หญิงรายดังกล่าวชื่อ นาตาชา สโคฟิลด์ อายุ 47 ปี เป็นแม่ของลูกๆ สามคน ประสบเหตุกำลังเดินทางไปกับสามี ในการล่องเรือเที่ยวตามหมู่เกาะแปซิฟิกในช่วงวันหยุดพักผ่อน 1 สัปดาห์ โดยจังหวะก่อนหน้าเกิดเหตุ หญิงรายนี้เดินไปกับสามีบนดาดฟ้าเรือ หลังจากทั้งสองเพิ่งกินอาหารค่ำเสร็จ

Image/Channel 10

ผลจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของหน่วยรักษาความปลอดภัยบนเรือสำราญ พบว่า หญิงสาวรายนี้น่าจะกระโดดจากเรือสำราญด้วยตัวเอง ขณะที่สามีพยายามจะคว้าตัวไว้ แต่ไม่สำเร็จ รวบได้เพียงท่อนขาก่อนร่างภรรยาจะดิ่งลงจากเรือลงมายังจุดเกิดเหตุในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงใต้

Image/MarineTraffic

นอกจากนี้ยังมีลูกเรือคนหนึ่งเห็นหญิงสาวตกจากชั้นดาดฟ้าของเรือเมื่อเวลาประมาณ 4 โมงเย็นของวันเกิดเหตุ ขัดแย้งกับข่าวก่อนหน้านี้ว่า เธออาเจียนอยู่ด้านข้างของเรือ และเป็นจังหวะที่คลื่นโหมซัดเรือจนเป็นแรงกระแทกให้หญิงรายนี้ตกลงไป

Image/Facebook

กัปตันเรือกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องที่น่าหนักใจมาก ที่ผมจะพูดว่าเราไม่สามารถค้นหาร่างของหญิงสาวรายนี้ได้ เรายังเฝ้าค้นหาอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่สภาพอากาศอากาศก็ไม่เอื้ออำนวย คลื่นสูง และกระแสลมแรง ยิ่งทำให้การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงต้องตัดสินใจที่จะล้มเลิกการค้นหาและเดินเรือมุ่งหน้าไปยังท่าเรือนครบริสเบนต่อไป”

Image/Facebook

ทั้งนี้ หลังจากเรือสำราญดังกล่าวเดินทางถึงท่าเรือนครบริสเบนแล้วในวันอาทิตย์ที่ 15 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสอบสวนเพื่อหาถึงสาเหตุที่แท้จริงของโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าครั้งนี้ต่อไปให้ชัดเจน

ขณะที่มีการเปิดตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการตกจากเรือสำราญว่ามี 308 คนแล้ว นับจากปีค.ศ. 2000