อุทาหรณ์! เด็กหญิงวัย 7 ปีโคม่า มีแผลไหม้รุนแรง หลังนำของเล่นเข้าไมโครเวฟ ระเบิดใส่หน้า เหตุเล่นชาเลนจ์ตามแอพฯดัง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน เด็กหญิงวัย 7 ขวบจากรัฐมิสซูรีชื่อสการ์เล็ตต์ เซลบี้ ตกอยู่ในอาการโคม่าหลังจากของเล่นชนิดนิ่มระเบิดขณะที่เธอพยายามทำตามชาเลนจ์ที่กำลังเป็นที่นิยมในติ๊กต็อก
ตามรายงาน “มันเกิดขึ้นเร็วมาก ผมได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอ มันเป็นเสียงกรีดร้องที่ทำให้เลือดเย็นเฉียบ” คุณพ่อของเหยื่อ จอช เซลบี้ วัย 44 ปี เล่าให้สำนักข่าวเคเนดี้ฟังขณะเล่าถึงเหตุการณ์อันน่าสยดสยอง
เด็กหญิงที่อาศัยอยู่ในเมืองเฟสตัส กำลังทำตามความชาเลนจ์ที่เธอเห็นในติ๊กต็อกและยูทูบที่ผู้คนนำของเล่นบีบคลายเครียดทำจากยางที่มีสารโพลีไวนิลแอลกอฮอล์บรรจุอยู่ภายในไปแช่แข็งแล้วนำไปอุ่นในไมโครเวฟเป็นเวลาหลายวินาทีเพื่อให้มันนิ่มขึ้น
“เธอแช่แข็งของเล่นไว้ตั้งแต่คืนก่อน และวันถัดมาเธอก็โชว์ให้ผมดูว่ามันแข็งเหมือนหิน และเล่นกับมัน เธอเอามันใส่ในไมโครเวฟ ผมกำลังมองเธอและเห็นเธอแตะมันเพื่อตรวจสอบว่ามันไม่ร้อนเกินไปตอนที่เธอนำมันออกมา” คุณพ่อกล่าว
การทดลองที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตรายนี้เกิดผิดพลาดหลังจากของเล่นเจลาตินระเบิด ทำให้ใบหน้าและหน้าอกของสการ์เล็ตต์โดนของเหลวร้อนที่หลอมละลาย
คุณพ่อเล่าว่า ได้ยินเสียงลูกสาวของเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หลังจากนั้นเขาก็วิ่งไปที่เธอและพยายามขูดเศษวัสดุร้อน ๆ ออกจากร่างกายและเสื้อผ้าของเธอ ซึ่งยากเนื่องจากความ “หนาและเหนียว” ของสารที่คล้ายนาปาล์ม
“เมื่อไหร่ที่ผมสัมผัสตัวเธอ มือของผมก็ติดกับตัวเธอ ดังนั้น ผมฉีกเสื้อของเธอออก ผมคิดว่าผมไม่สามารถพูดกับใครได้โดยไม่ร้องไห้ตลอดเวลา” พ่อที่กำลังเศร้าโศกกล่าวด้วยความเสียใจ
พ่อและแม่บรถพาลูกสาวที่อยู่ในอันตรายไปที่โรงพยาบาลเด็กเซนต์หลุยส์ ใช้เวลา 30 นาที เธอได้รับความเจ็บปวดมากจนกระทั่งยังคงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด “มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากที่เธอกลัวและเจ็บปวดขนาดนั้น” แม่ของเธอที่หัวใจสลายกล่าวด้วยความเศร้า
เนื่องจากแพทย์กังวลว่าแผลไหม้ที่ปากอาจทำให้เกิดปัญหาทางเดินหายใจ จึงต้องใช้ยาสลบกับเธอ แต่เธอกลับฟื้นขึ้นมาได้เพียงสามวันต่อมา ซึ่งริมฝีปากของเธอไหม้อย่างรุนแรงจนต้องให้อาหารทางสายยางตลอดระยะเวลาที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลหนึ่งสัปดาห์
แพทย์ตัดสินใจที่จะไม่ปลูกถ่ายผิวหนังให้สการ์เล็ตต์ในระหว่างที่อยู่โรงพยาบาล แต่เธออาจต้องเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายผิวหนังเมื่อโตขึ้น
“หลังจากปรึกษากับแพทย์ เราจะให้เวลาเธอประมาณสองปี อาจจะจนกว่าเธอจะอายุประมาณ 12 ปี เพื่อดูว่าร่างกายของเธอจะเติบโตอย่างไร และขึ้นอยู่กับว่ารอยแผลเป็นจะยืดออกและเติบโตไปกับเธอหรือไม่ เรายังคงทาครีมและยาขี้ผึ้งที่มีซิลิโคนทุกวัน รอยแผลเป็นเด่นชัดมากจนนูนออกมาจากผิวหนัง” อแมนดา เบลเคนชิป แม่ของเด็กหญิงรายนี้กล่าว
อแมนดากล่าวว่า เธอจะเห็นลูกสาวร้องไห้ขณะมองกระจกหลังอาบน้ำ “เธอรู้สึกอายมาก และฉันจะเห็นเธอพยายามใช้เสื้อปกปิดแผลเป็นเมื่อเราอยู่ในที่สาธารณะบางครั้ง หรือเธอจะกลับบ้านจากโรงเรียนและบอกว่ามีเด็กคนอื่นถามเธอเกี่ยวกับมัน ฉันบอกเธอว่าเธอไม่จำเป็นต้องอายเกี่ยวกับมัน เธอผ่านอะไรมามากและมันเป็นอุบัติเหตุที่เลวร้ายมาก”
แม้จะมีรอยแผลเป็นที่น่ากลัว อแมนดากล่าวว่า “เธอยังคงสวยงาม และรอยแผลเป็นเหล่านั้นทำให้เธอเป็นตัวของเธอเอง” พร้อมทั้งขอเตือนพ่อแม่คนอื่น ๆ ให้ทิ้งผลิตภัณฑ์ของเล่น หลังเกิดเหตุการณ์ ผู้ผลิตของเล่นได้ระบุไว้บนเว็บไซต์ว่าไม่ควรให้ความร้อน แช่แข็ง หรือนำผลิตภัณฑ์เข้าไมโครเวฟ เพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้
