เมื่อเวลา 07.04 น. วันที่ 15 พ.ย. เมื่อเวลา 07.04 น. วันที่ 15 พ.ย. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยคุณพลอยไพลิน เจนเซน ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเช้า แด่พระภิกษุสงฆ์ในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

s__8970253

จากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงกราบหน้าพระโกศพระบรมศพ หลังจากนั้นทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร จากนั้นถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมมาตั้งแต่ค่ำวันที่ 14 พ.ย.

s__8970252

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. หลังสำนักพระราชวังปิดการเข้าถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เวลา 21.00 น. ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 30,097 คน รวม 17 วัน มี 500,916 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 2,476,202.50 บาท รวม 17 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 33,967,978.75 บาท

s__8970254

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า วันนี้เป็นวันที่ 18 ที่มีพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. (ยกเว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท) โดยมีประชาชนจำนวนมาก เดินทางมาเฝ้ารอต่อคิวเพื่อเข้าสักการะพระบรมศพตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีอย่างเป็นระเบียบ ในเวลา 05.00 น.

s__8970258

ก่อนที่จะเปลี่ยนทางเข้าเป็นประตูมณีนพรัตน์ ถนนหน้าพระลาน ในเวลา 08.30 น. เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี โดยประชาชนที่มาถวายบังคมพระบรมศพต่างอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ หลายคนกอดพระบรมฉายาลักษณ์ที่นำมาจากบ้านไว้แนบอก ซึ่งหลังจากเข้ามาถวายบังคมพระบรมศพแล้ว สำนักพระราชวังแจกภาพพระบรมโกศพระบรมศพ พิมพ์ 4 สี ขนาด 5 คูณ 7 นิ้ว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่พสกนิกรทุกคนเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย

นายพุฒิพงศ์ วงษ์จินดา อายุ 67 ปี และภรรยา

นายพุฒิพงศ์ วงษ์จินดา อายุ 67 ปี และภรรยา

นายพุฒิพงศ์ วงษ์จินดา อายุ 67 ปี สมาชิกคนหัวใจหินจังหวัดสตูล ซึ่งเข้าร่วมกิจกรรมงดเหล้าครบพรรษา ปี 2559 ของสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) โดยเป็นผู้ที่สามารถงดเหล้าได้สำเร็จ และยังปฏิญาณตนไว้ว่าจะเลิกเหล้าให้ได้ตลอดชีวิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวง รัชกาลที่ 9 เปิดเผยว่า ตนมีความตั้งใจขี่รถสามล้อพ่วง เพื่อมาแสดงความอาลัยและถวายบังคมพระบรมศพ พร้อมนางอำมร วงษ์จินดา อายุ 53 ปี ภรรยา โดยใช้เวลา 5 วัน เป็นระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตร ระหว่างเส้นทางได้มีการรณรงค์ให้ประชาชนคนไทยตระหนักถึงโทษภัย พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนที่มีความตั้งใจจะทำความดีร่วมลงชื่อเลิกเหล้าตลอดชีวิต เพื่อถวายความดีแด่พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ของแผ่นดิน

นางเคียงดาว สุระทอง อายุ 61 ปี

นางเคียงดาว สุระทอง อายุ 61 ปี

“ผมเริ่มดื่มเหล้าตั้งแต่อายุ 15 ปี เมื่อทำงานมีอาชีพเป็นเชฟมักดื่มทุกครั้งระหว่างทำอาหาร จนกลายเป็นคนติดเหล้า โดยดื่มเฉลี่ยวันละ 1 ขวด และสูบบุหรี่อีกวันละ 2 ซอง กระทั่งปีที่พระบาทสมเด็จพระมหาปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ผมจึงตัดสินใจเลิกเหล้า เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมตั้งใจเด็ดเดี่ยวที่จะเลิกข้องเกี่ยวกับอบายมุขทั้งหมด และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกด้วย” นายพุฒิพงศ์กล่าวและว่า หลังจากเลิกเหล้าก็พบว่าสุขภาพดีขึ้น เงินที่เคยจ่ายซื้อเหล้าก็นำมาเก็บเป็นทุนการศึกษาให้กับลูกทั้ง 4 คน และเป็นรายได้ใช้จ่ายภายในครอบครัว ผมรักในหลวงมาก พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์หนึ่งเดียวในโลก ที่ไม่อาจหาใครเทียบได้ พระองค์ทรงงานหนักเพื่อประชาชนมาตลอดพระชนมชีพ วันนี้มีความตั้งใจมากที่จะมาถวายบังคมพระบรมศพและตั้งจิตอธิษฐานให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย ผมจะปฏิบัติตนเป็นคนดี และอยากเชิญชวนคนที่ติดเหล้าหรือเครื่องดื่มมึนเมา ให้หันมาเลิกเสพติดสิ่งเหล่านี้ หากทำได้ก็ดีกับตัวเอง” นายพุฒิพงศ์ กล่าว

น.ส.เกตน์นิภา แสงเพ็ง อายุ 20 ปี

น.ส.เกตน์นิภา แสงเพ็ง อายุ 20 ปี

ด้านนางเคียงดาว สุระทอง อายุ 61 ปี ชาวจ.ระยอง กล่าวว่า ตนนั่งรถตู้มากับคนในชุมชน โดยมีคนใจบุญจ่ายค่ารถให้ ตนดีใจมากที่มีโอกาสได้มาถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ทรงงานหนักเพื่อประชาชนมามาก ตนเคยไปเฝ้าฯ รับเสด็จที่หัวหิน 2 ครั้ง พระองค์ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชนด้วย สร้างความปลื้มปีติแก่ตนอย่างมาก วันที่ทราบว่าพระองค์สวรรคต ตนทำใจไม่ได้และเศร้าโศกเสียใจทั้งวัน ตนได้อธิษฐานขอให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย ตนจะดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเดินตามรอยพระยุคลบาท

s__8970257

ขณะที่ น.ส.เกตน์นิภา แสงเพ็ง อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม กล่าวว่า ตนมาเข้าคิวตั้งแต่เวลา 04.00 น. และถวายบังคมพระบรมศพ เวลาประมาณ 09.00 น. แม้จะรอนานก็ไม่รู้สึกเหนื่อยหรือท้อเลย เพราะคุ้มค่ากับการรอคอย พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ดีมาก ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากมาย และไม่เคยทอดทิ้งประชาชนเลย ตนรักพระองค์มาก และภูมิใจที่ได้เกิดใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ตนได้อธิษฐานขอให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.58 น. นางเบกุม ตารานา ฮาลิม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงไปรษณีย์ โทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ แห่งสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ ในฐานะผู้แทนพิเศษของนายอับดุล ฮามิด ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ เดินทางมาวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง จากนั้นลงนามถวายความอาลัย ณ อาคารสำนักราชเลขาธิการ ในพระบรมมหาราชวัง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน