แฉกันนัว จบยากอีกคู่ กานต์ วิภากร อดีตภรรยา เสก โลโซ ร็อกเกอร์ชื่อดัง รุดพบตำรวจแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ สน.โคกคราม บุกจับ เสี่ยโป้ อภิรักษ์ อายุ 24 ปี พร้อมลูกน้อง ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรพร้อมของกลางอาวุธปืนออโตเมติก ยี่ห้อ CZ 2075 RAMI จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 14 นัด ซองกระสุนปืนจำนวน 1 ซอง กระเป๋าสะพายยี่ห้อ จาคอบ สีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ หน้าบ้าน กานต์ วิภากร อดีตภรรยา ร็อกเกอร์ชื่อดัง เสกโลโซ ขณะเสี่ยโป้ โวยว่าถูกจัดฉาก กานต์ล่อมาให้ตำรวจจับนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 เม.ย. ที่ สน.โคกคราม พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รองผบก.น.2 พ.ต.อ.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สน.โคกคราม และพ.ต.อ.ทนงศิลป์ มณีโชติ ผกก.สน.สายไหม ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี พร้อมทั้งแถลงการจับกุมตัวนายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ อายุ 24 ปี หรือ เสี่ยโป้ และ นายกันต์ ทำสุข อายุ 23 ปี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว น.ส.วิภากร ศุขพิมาย หรือ กานต์ คู่กรณีมาสอบสวนด้วย

พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวว่า ในส่วนของคดีนายอภิรักษ์ หรือ เสี่ยโป้ นั้น เริ่มจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคราม รับแจ้งจากคนในบ้านของ น.ส.วิภากร ว่าเวลาประมาณ 20.00 น. จะมีกลุ่มของนายอภิรักษ์ เดินทางมาที่บ้านเพื่อยืมเงินและพูดคุยจัดการหนี้สินที่ค้างกันอยู่ โดยทาง น.ส.วิภากร ให้ข้อมูลว่านายอภิรักษ์ จะเดินทางมาด้วยรถยนต์ และจะพกอาวุธปืนไว้ตลอดเวลา เกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย ทางเจ้าหน้าที่จึงวางแผนดักซุ่มรอจนกระทั่งเวลา 21.40 น. มีรถเป้าหมายขับเข้ามาที่หน้าบ้านจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นจนพบอาวุธปืนดังกล่าว

พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนทราบว่าทั้งสองขับรถมาจากบ้านย่านเพชรเกษม โดยมีนายอภิรักษ์ เป็นคนขับ เพื่อมาเอาเงินที่บ้านของ น.ส.วิภากร โดยเหตุที่พกอาวุธปืน นายกันต์ อ้างว่านายอภิรักษ์ จะพกอาวุธปืนอยู่เป็นประจำเวลาไปไหนก็จะนำไปด้วยตลอด แต่ขณะจับกุมอาวุธปืนอยู่ในกระเป๋าของนายกันต์ จึงสันนิษฐานได้ว่าปืนกระบอกนี้อาจจะเป็นของนายอภิรักษ์ แต่ให้นายกันต์ เป็นคนพกพา เจ้าหน้าที่จึงต้องตรวจสอบรอยนิ้วมือบนปืน และตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองอีกครั้ง ทั้งนี้ยังจะตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายอภิรักษ์ ด้วย

พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวอีกว่า จากการสอบสวน น.ส.วิภากร ทราบว่า ถูกนายอภิรักษ์ อ้างตัวเป็นนักธุรกิจมาหลอกให้ร่วมลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับการเปิดค่ายมวย เป็นเงินประมาณ 60 ล้าน และมีการมาขอเงินอีกจำนวน 500,000 บาท ด้วยซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อมาแจ้งความเอาผิดกับ นายอภิรักษ์ ในข้อหาฉ้อโกง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และข้อหา “ร่วมกันพกพาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนทำประวัติแล้วให้ประกันตัวออกไปวงเงินประกันรายละ 150,000 บาท

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน