ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. วันที่ 30 เมษายน 2561 นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตนักสหภาพแรงงานและนักเคลื่อนไหวกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ได้รับอิสรภาพแล้วหลังถูกคุมขังมา 7 ปีจากความผิดในข้อหาตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 138 จากข้อหาหมิ่นประมาท พล.อ.สะพรั่ง กัลยาณมิตร โฆษก คมช. โดยมีนักกิจกรรม บุตรชายและบุตรสาว มารอรับกลับบ้านอย่างอบอุ่น
นายสมยศกล่าวตอนหนึ่งว่า เท่าที่ติดตามสถานการณ์ เห็นว่าบรรยากาศคล้ายกับช่วงพฤษภาทมิฬ 2535 และนำไปสู่ความรุนแรงได้ หากไม่ได้รับการแก้ไขจะเกิดความขัดแย้งมากขึ้น จะกลายเป็นการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมากขึ้น เมื่อถามถึงโอกาสที่จะเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองต่อจากนี้ นายสมยศกล่าวว่า การมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นหน้าที่ของพลเมืองอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่แต่ละคนจะแสดงออก นี่ก็ไทยแลนด์ 4.0 แล้ว พี่น้องประชาชนก็มีความตื่นตัวทางการเมืองมาก
ส่วนเรื่องความกังวลของฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคมที่มีการนัดชุมนุมใหญ่ และนายสมยศก็เคยมีบทบาทเป็นแกนนำนั้น นายสมยศกล่าวว่า เรื่องการเคลื่อนไหวเป็นเรื่องของประชาชนเหล่านั้น ซึ่งปัจจัยเกิดจากฝ่ายรัฐประหารเพราะว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นทำให้สังคมไทยล้าหลัง เศรษฐกิจเสียหาย เลยทำให้การเคลื่อนไหว ถ้าหากใช้อำนาจเผด็จการมากขึ้นจะไม่เป็นผลดีต่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยและไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล จะทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น
“ถ้าเป็นการเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยโดยเฉพาะการเลือกตั้ง ก็จะไปเข้าร่วม ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว” นายสมยศ กล่าว
นายสมยศยังกล่าวว่า สิ่งแรกที่อยากทำหลังได้รับอิสรภาพ ตนมีบันทึกหลายฉบับที่เขียนในช่วงถูกจองจำ เกี่ยวกับสภาพชีวิตที่ยากลำบาก และปัญหาที่ไม่เป็นธรรมในหลายเรื่อง และสิทธิประโยชน์ไม่ได้รับอย่างที่เป็นจริง รวมถึงปัญหาสิทธิเสรีภาพที่ต้องดำเนินการ ยกตัวอย่างรัฐบาลประยุทธ์ที่กล่าวว่า สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ ตอนที่ถูกขัง ตนเคยร้องเรียนไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ว่า ทางกรมราชทัณฑ์ละเมิดสิทธิในเรื่อง ผ้าห่ม 3 ผืน กสม.มีผลวินิจฉัยว่าเป็นการละเมิดสิทธิ แต่ก็ไม่มีผลจนไปสู่การเปลี่ยนแปลง
นายสมยศยังกล่าวว่า ขอสนับสนุนกลุ่มประชาชนที่เรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง และรัฐบาลอย่าได้เล่นเล่ห์เพทุบายที่จะเลื่อนเลือกตั้ง เพราะจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจและด้านอื่นอีก ซึ่งจะเป็นปัญหา
สำหรับประวัติของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เคยเป็นนักกิจกรรมแรงงาน ประธานสหภาพพันธมิตรแรงงานประชาธิปไตย, แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย, และบรรณาธิการบริหารนิตยสารวอยซ์ออฟทักษิณ-เรดพาวเว่อร
ย้อนไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2554 นายสมยศถูกควบคุมตัวที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า เขาถูกออกหมายจับโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ในคดีอาญามาตรา 112 กระทั่งเมื่อวันที่ 23 ก.พ.2560 ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ลดโทษคดีมาตรา 112 ของสมยศ จาก 10 ปีเหลือ 6 ปี ในความผิด 2 กระทง โดยระบุจำเลยมีอายุและรับโทษมาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว ส่วนอีก 1 ปี ที่ต้องจำคุกนั้น คือ 1 ปีของมาตรา 138 จากข้อหาหมิ่นประมาท พล.อ.สะพรั่ง กัลยาณมิตร โฆษก คมช. แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ และศาลสั่งให้นำโทษจำคุก 1 ปีมารวมในครั้งนี้ ทำให้นายสมยศต้องรับโทษรวม 7 ปี
ช่วงที่นายสมยศ ถูกจำคุก สหภาพแรงงานสาธารณสุขเกาหลีใต้ ได้มอบรางวัล “ชุน แต อิล” เป็นรางวัลเพื่อเป็นเกียรติแก่นักกิจกรรมด้านแรงงานในเกาหลี แก่นายสมยศในปี 2559 และเป็นผู้ได้รับรางวัลคนแรกที่ไม่สามารถไปรับรางวัลได้ด้วยตัวเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน