จากกรณีมีผู้พบเห็นหญิงสาวสวมชุดขาวดำนั่งท้ายรถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัสติส สีแดง ทะเบียน 3 ก 2748 กทม. บนถนนพระราม 9 (ขาเข้า) เมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 พ.ย. เวลาประมาณ 18.15 น. ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการบันทึกภาพไว้ และแชร์ให้กับเพื่อนๆ หลังจากนั้น ได้มีการแชร์ลงโซเชียล โดยตั้งชื่อคลิปว่า “เป็นคนหรือผี” โดยมีผู้มาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก และแชร์ต่อๆ กันล
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 พ.ย. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 เปิดเผยถึงงกรณีหญิงสาวนั่งท้ายรถยนต์ ว่า จากการสืบสวนทราบว่าคู่กรณีเป็นสามีภรรยากัน ฝ่ายชายอายุ 47 ปี (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) ฝ่ายหญิงอายุ 29 ปี (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) เป็นคนไทยทั้งคู่ มีบุตรด้วยกัน 1 คน และเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา หญิงสาวที่นั่งฝากระโปรงท้าย ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว
โดยหญิงสาวให้การว่า ในวันเกิดเหตุ สามีได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาส่งภรรยาที่ย่านทาวน์อินทาวน์ แต่ระหว่างทางได้เกิดมีปากเสียงกันทะเราะหึงหวงกันภายในรถ ภรรยาจึงได้โทรลางาน จากนั้นตัวสามีจึงขับรถมาที่ย่านพัฒนาการ และเมื่อภรรยาลงจากรถ ผู้ขับขี่ก็ได้ล็อกประตูรถ แต่เนื่องจากกระเป๋าของฝ่ายหญิงอยู่ภายในรถ จึงได้ขึ้นไปนั่งบนฝากระโปงท้าย จากนั้นสามีจึงขับรถออกมา ดังที่จนเป็นข่าวดังที่ปรากฎในคลิป
พล.ต.ต.นันทชาติกล่าวว่า เบื้องต้น ฝ่ายหญิงให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ได้เปรียบเทียบปรับในข้อหา นั่งบนรถยนต์ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายในขณะที่รถยนต์เคลื่อนอยู่ในทางเดินรถ (ตาม พ.ร.บ.จราจร ทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 124 วรรคสอง ระวางโทษ ปรับไม่เกิน 500 บาท) ส่วนฝ่ายชายได้รับหมายเรียกแล้ว โดยจะขอเข้าพบเจ้าหน้าที่ภายใตอาทิตย์หน้า ซึ่งจะเจ้าหน้าที่จะเเจ้งข้อหา ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น (พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (8) ระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)
