เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 17 พ.ค. ที่บริษัท ฮานิวโคเรียจำกัด เลขที่ 1693 และ 1694 ซอยอรุณอมรินทร์ 53 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) นำทีมเข้าตรวจค้นบริษัทดังกล่าว หลังสืบสวนทราบว่ามีการผลิตสินค้าให้กับเมจิกสกินและตรีชฎา ซึ่งเป็นสินค้าในเครือเมจิกสกิน โดยบริษัทดังกล่าวเป็นตึกติดกัน 2 คูหา 3 ชั้น หน้าร้านระบุว่ารับผลิตอุปกรณ์ตามแบบฐาน หรือ OEM นำเข้าเครื่องสำอาง อาหารเสริม บรรจุแคปซูล ยื่นจดอย.อาหารเสริม เวชสำอาง ซึ่งภายในร้านพบสารเคมี สารตั้งต้นจำนวนมาก และยังห้องมีแลปที่ใช้ผลิตสารเคมี ผลิตภัณฑ์ต่างๆ และพบพนักงานประมาณ 10 คน กำลังจะเข้างาน

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้นพบโรงงานแห่งนี้รับผลิตสินค้าให้กับเมจิกสกินและตรีชฎาด้วย แต่จากการตรวจค้นไม่ค้นพบผลิตภัณฑ์ของเครือดังกล่าว รวมถึงไม่พบบรรจุภัณฑ์ด้วย พบเพียงสารตั้งต้นและเครื่องผลิตครีมขนาดใหญ่เท่านั้น ซึ่งทางตำรวจก็สงสัยว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ แต่จากการสอบสวนทราบว่าบริษัทดังกล่าวมีแหล่งเก็บสินค้าเป็นตึกแถวติดกัน 3 ตึก ตั้งอยู่ตรงข้ามกับบริษัท ซึ่งขณะนี้กำลังขอหมายค้นจากศาลอยู่

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพบประเด็นที่ยังสงสัยคือทางอย.ได้ประกาศยกเลิกไม่ให้ผลิตหรือจำหน่ายสินค้ายี่ห้อดังกล่าว แต่เหตุใดทางบริษัทยังผลิตอยู่ จึงคาดว่ามีการนำสินค้าเก่ามาจดแจ้งให้ถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในการตรวจค้นวันนี้ เจ้าของโรงงานยังไม่มาแสดงตัว มีเพียงผู้จัดการเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร

ต่อมาเวลา 12.30 น. พล.ต.อ.วิระชัย นำทีมเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ฝั่งตรงข้าม ที่เชื่อว่าเป็นที่เก็บซ่อนสินค้าของบริษัทฮานิว โคเรีย โดยทั้ง 2 คูหาเลขที่ 1759 และ 1757 หลังสืบสวนทราบว่า มีการผลิตสินค้าให้กับเมจิกสกินและตรีชฎา โดยมีนายทนงค์ วงค์สมบูรณ์ และน.ส.ปาจรีย์ วงศ์สมบูรณ์ กรรมการบริหารบริษัทฮานิว โคเรีย จำกัด ร่วมด้วยตรวจค้นด้วย

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อหนึ่งที่มีการกล่าวอ้างว่ามีเยื่อไผ่ และเห็ดจากญี่ปุ่นนั้น ไม่เป็นความจริง และผลิตภัณฑ์ของตรีชฎาที่มีการกล่าวอ้างว่าผลิตที่ จ.นครราชสีมา ก็ไม่เป็นความจริง เพราะมาผลิตที่โรงงานแห่งนี้ ยืนยันว่าเอกสารที่ได้ภายในบริษัทชี้ให้เห็นว่าบริษัทฮานิวโคเรีย รับผลิตสินค้าให้บริษัทเมจิกสกินจริง นอกจากนี้ จากการตรวจค้นยังพบบัญชีสรุปหนี้ของบริษัท ว่าเป็นหนี้ต่อบริษัทเมจิกสกิน จำนวน 27,828,809 บาท และมียอดค้างต่อบริษัทอื่นอีก รวมกว่า 40 ล้านบาท ส่วนเรื่องที่เจ้าของจะปฏิเสธอย่างไรก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะนำเครื่องคอมพิวเตอร์ไปตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด รวมถึงเชิญผู้บริหารบริษัทไปสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นในข้อหาโฆษณาเกินจริง ที่บก.ป.ภายในวันนี้

ด้านนายทนงค์ กล่าวว่า บริษัทนี้รับผลิตเนื้อครีมและขายส่ง ยืนยันส่วนผสมรวมถึงสารต่างๆ ถูกต้องตามกฎหมาย มีการแจ้งจดทะเบียนเมื่อปี 2556 และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้ามาตรวจ ก็ไม่พบสารต้องห้าม ส่วนที่มีข้อมูลว่าบริษัทเมจิสกิน มีการใช้ที่ตั้งของโรงงานซึ่งเป็นสถานที่การผลิตสินค้า ยอมรับว่ามีการติดต่อขอซื้อเนื้อครีมทารักแร้ของโรงงาน 3 ตันไปทดลองจำหน่ายแล้วได้ผลดี จึงทำหนังสือสัญญาว่าจ้างเป็นสถานที่ผลิตสินค้าให้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อตรีชฎา ซึ่งบริษัทได้ตรวจสอบเลข อย.แล้ว พบว่าไม่ถูกต้อง จึงส่งกลับไปยังบริษัท เมจิกสกิน ทำให้ไม่มีการผลิตสินค้าให้บริษัท เมจิกสกิน ก่อนที่ภายหลังบริษัท เมจิกสกิน จะนำแบรนด์ตัวใหม่มายื่นขอให้บริษัท ฮานิว โคเรีย ผลิตให้

ขณะที่น.ส.ปาจรีย์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงสารประกอบครีมยี่ห้อคาโอะ โดยยืนยันว่าในผลิตภัณฑ์ไม่มีส่วนผสมจากเยื่อไผ่และเห็ดญี่ปุ่น ตามที่มีการนำไปโฆษณา ส่วนกรณีที่ตำรวจพบข้อมูลบัญชีหนี้สินแล้วมีชื่อบริษัทเมจิสกิน เป็นลูกหนี้ 27 ล้านบาท เรื่องดังกล่าวขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน