เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร พ.ต.อ.เฉลิมพล จินตรัตน์ รักษาการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน ภ.จว.กำแพงเพชร และสภ.ลานกระบือ อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร นำโดย พ.ต.ท.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ สว.กก.สืบสวน ภ.จว.กำแพงเพชร พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนะชัย เหลืองเพชรรัตน์ สว.สส.สภ.ลานกระบือ พ.ต.ต.เอกรัฐ นุชเฉย สว.กก.สืบสวน ภ.จว.กำแพงเพชร และร.ต.อ.วัชรพล สำราญจิตร์ รอง ส.กก.สืบสวน ภ.จว.กำแพงเพชร พร้อมพวก
ร่วมกันทำการจับกุม นายแสวง หรือ เจี๊ยบ บุญเลิศ อายุ 53 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่ 119 หมู่ที่ 2 ตำบลโนนพลวง อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร จับกุมตามหมายศาลจังหวัดกำแพงเพชรที่ 1051/2546 ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2546 โดยกล่าวหาว่า “ปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธยิงเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ขึ้นบัญชี นายแสวง หรือ เจี๊ยบ บุญเลิศ เป็นมือปืนตามปฏิทินหมายจับมือปืน ประจำปี 2559
โดยจากการตรวจสอบประวัติ พบว่ามีหมายจับความผิดฐานปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นฯจำนวน 4 หมาย ดังต่อไปนี้ คือ หมายจับศาลจังหวัดกำแพงเพชร ที่ 1051/2546 ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2546 ความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ” เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2541 โดยร่วมกับพวกก่อเหตุปล้นทรัพย์และฆ่า นายเอี่ยม ก้อนแก้ว พื้นที่ สภ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร หมายจับศาลจังหวัดพิจิตร ที่ 15/2545 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2545
ความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ” เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2541 โดยร่วมกับพวกก่อเหตุปล้นทรัพย์และฆ่า นายสมชาย สุขสกุลวงษ์ พื้นที่ สภ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร หมายจับศาลจังหวัดพิจิตร ที่ 19/2545 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2545 ความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ” เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2541 โดยร่วมกับพวกก่อเหตุปล้นทรัพย์และฆ่า นายมนตรีศักดิ์ โตน้อย พื้นที่ สภ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร และหมายศาลจังหวัดนางรอง ที่ 57/2546 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2546 ความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2541 โดยร่วมกับพวกก่อเหตุฆ่า นายหลวย ปล้องสันเทียะ พื้นที่ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกำแพงเพชรสืบทราบว่า นายแสวง หรือ เจี๊ยบ บุญเลิศ มาหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณเพิงพักภายในซอยทรงพล 5 ถนนทรงพล ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม จึงได้ตรวจสอบและเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 22 พ.ย. เวลาประมาณ 08.29 น. เจ้าหน้าที่ฯกับพวกชุดจับกุม พบเห็นนายแสวง ผู้ต้องหาตามหมายจับ อยู่ในบริเวณเพิงพักดังกล่าว และกำลังจะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากที่พัก จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายจับให้นายแสวงดู โดยผู้ต้องหารายนี้ได้รับว่า ตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริงและไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน
นายแสวง ให้การรับสารภาพว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ.2541 ได้ร่วมกับพวกหลอกให้คนกรุงเทพมหานคร ขับรถกระบะไปส่งที่จังหวัดพิจิตร เมื่อไปถึงได้ร่วมกันทำร้ายและใช้อาวุธปืนยิงคนขับรถจนถึงแก่ความตาย จากนั้นนำศพไปทิ้งไว้ข้างทาง และนำรถกระบะของผู้ตายไปขายที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้คันละ 50,000 บาท และนำเงินมาแบ่งกัน โดยก่อเหตุที่จังหวัดพิจิตร จำนวน 2 ครั้ง และก่อเหตุในปี พ.ศ.2541 ในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร โดยก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน 1 ครั้ง จึงจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร ดำเนินการตากฎหมายต่อไป หลังผู้ต้องหารายนี้หลบหนีคดีต่างๆ ที่ก่อขึ้นมาถึงระยะเวลา 18 ปี เต็ม
